ชูวิทย์ถามก้าวไกลจะดันทุรังทำไปทำไม แนะถอยม.112 เชื่อประชาชนเข้าใจ ดันพิธานั่งนายก

181
0
Share:
ชูวิทย์ ถามก้าวไกลจะดันทุรังทำไปทำไม แนะถอย ม.112 เชื่อประชาชนเข้าใจ ดัน พิธา นั่งนายก

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นประเด็นการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบแรก แนะพรรคก้าวไกลถึงทางเลือกที่ว่าควรยอมถอยเรื่อง ม.112 ดีกว่าหรือไม่ เนื่องจาก ม.112 เป็นเงื่อนไขหลักๆ ส่งผลกระทบให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้รับความเห็นชอบยังไม่เกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมสภาฯ ทั้งหมด

นอกจากนี้ ชูวิทย์ ยังระบุเพิ่มเติมว่า ม.112 ไม่ใช่เรื่องเดียวที่พรรคก้าวไกล สัญญาไว้กับประชาชน และหากก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ประเทศไทยยังมีอีกสารพัดเรื่องให้ทำอีกมากมาย ถอยดีกว่า วันนี้การโหวตเลือกนายกฯ ได้เห็นแล้วว่าไม่ผิดจากที่ผมพูดไว้ แผนสกัดพิธา “มีก้าวไกล ไม่มี ส.ว.” ไม่มีอะไรแปลกใจ แม้ว่า พิธา ยังยืนยันหลังผลการโหวตแพ้ว่าการต่อสู้ยังไม่จบ “ยอมรับ แต่ไม่ยอมแพ้”

โหวตครั้งที่ 2 หากมีโอกาส ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม ก้าวไกลจึงต้องถึงทางเลือกว่า “ยอมถอย เรื่อง ม.112 ดีกว่า” เพราะเป็นการสร้างความแตกแยก และเป็นเงื่อนไขให้พิธาไม่ได้เป็นนายกฯ การขึ้นเป็นรัฐบาล ไม่จำเป็นที่ต้องยึดเรื่องปฏิรูปสถาบันเป็นหลัก มีเรื่องสารพันให้ทำอีกมากมาย

ผมมั่นใจว่าใน 14 ล้านเสียง ไม่ได้ต้องการเรื่องปฏิรูปสถาบันมาเป็นเรื่องแรกๆ เสียด้วยซ้ำ ก้าวไกลได้คะแนนเสียงจาก “มีลุง ไม่มีเรา” ปฏิรูปกองทัพ ยุบ กอ.รมน. กฎอัยการศึก ล้มเผด็จการ รวมถึงกฎหมายต่างๆที่ทำให้ประเทศไทยติดหล่มมาถึง 9 ปี นี่ต่างหากที่ก้าวไกลต้องปฏิรูป วันนี้ยังมีโอกาสที่ก้าวไกลจะถอย หากไม่ดื้อ และยึดติดกับคะแนนเสียงมวลชนบางส่วน ทุกอย่างมีขึ้นและมีลง คะแนนเสียงไม่ได้อยู่กับก้าวไกลตลอดไป มันไม่ใช่ “การถ่มน้ำลายรดฟ้า” แต่เป็นการถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้าน ทั้งที่มีโอกาสเป็นรัฐบาล ทำงานเพื่อประชาชนไม่ใช่แค่ 14 ล้านเสียง แต่ต้องทำให้คนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเลือกก้าวไกลหรือไม่ต่างหาก บทพิสูจน์ของก้าวไกลก่อนจะสายเกินไป เรียนรู้การลำดับว่าอะไรที่สำคัญกับชาติบ้านเมืองก่อน ไม่มีใครทำได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อยังไม่ถึงเวลาต้องทำ ม.112 ไม่ใช่เรื่องเดียวที่ก้าวไกลสัญญาไว้กับประชาชน ประเทศไทยยังมีอีกสารพัดเรื่องให้ทำหากเป็นรัฐบาล ผมรับประกัน

ม.112 เรื่องเดียวจะทำให้พิธาไม่ได้ทำเรื่องใหญ่เรื่องอื่นเลย พิธาย้ำเสมอว่า “เป็นผู้นำต้องมีสติ ไม่มุทะลุ รู้จักว่าเวลาไหนควรรุก เวลาไหนควรถอย” การดึงดันแก้ไข ม.112 แม้รู้ว่าปลายทางไม่มีทางผ่าน นอกจากตอบสนองความต้องการของมวลชนกลุ่มหนึ่ง แล้วจะดันทุรังทำไปทำไม ทั้งที่สามารถบอกประชาชนได้ว่า “ก้าวไกลเป็นรัฐบาลผสม ไม่ใช่รัฐบาลพรรคเดียว ไม่มีพรรคร่วมใดเห็นด้วยกับการแก้ไข ม.112 เลยแม้แต่พรรคเดียว” หากต้องการเอา ม.112 มาเป็นเรื่องหลัก ขอให้ครั้งหน้าประชาชนเลือกพรรคก้าวไกลเกินครึ่งไปเลย

ผมพูดจากประสบการณ์การเมือง และหาทางประนีประนอมเพื่อให้ก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ไม่ใช่เอาแต่ใจตัวเอง หรือฐานมวลชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ข้อแนะนำของผม คือยอมถอยดีกว่า หากก้าวไกลแสดงให้เห็นว่ายอมถอย ม.112 แล้ว อำนาจเก่ายังไม่ถอยก็ถึงคราวต้องรุกกลับ