ซิตี้แบงก์ปรับลดจีดีพีไทยปีนี้เหลือ 3.3%

น.ส.นลิน ฉัตรโชติธรรม นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้มาอยู่ที่ 3.3% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.8% ซึ่งได้รับความเสี่ยงจากผลกระทบสงครามการค้า ส่งผลให้กระทบกับการส่งออกของไทยมากขึ้น และคาดว่าเศรษฐกิจปี 2563 จะขยายตัวได้ 3.7% ซึ่งในระยะต่อไปต้องติดตามแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ หลังจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมามีการชะลอเบิกจ่ายรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งมาตรการสนับสนุนการลงทุนเอกชน
.
นอกจากนี้ยังต้องติดตามภาครัฐว่าจะมีมาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวหรือไม่ เพื่อดึงดูดต่างชาติกลับมาเข้าไทยโดยเฉพาะจีน หลังจากในช่วงที่ผ่านมาชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวประเทศอื่นมากขึ้น ทำให้ภาคการท่องเที่ยวไทยช่วงที่ผ่านมาชะลอลง
.
ส่วนค่าเงินบาทไทย มีแนวโน้มอยู่ในระดับที่แข็งค่าไปจนถึงช่วงต้นปี 2563 เพราะมีเงินทุนไหลเข้าจำนวนมาก ซึ่งได้ประเมินว่าหากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากส่งสัญญาณมากขึ้น เพราะเป็นห่วงเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว จะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้ โดยคาดว่าปีนี้เงินบาทจะอยู่ในกรอบ 31.00-32.00 บาทต่อดอลลาร์
.
ดังนั้นหลังจากจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ต้องดูนโยบายที่จะออกมาหลังจากนี้ว่าเป็นอย่างไร และงบประมาณปี 2563 จะชัดเจนเมื่อไร ซึ่งจะมีผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุน แต่มองว่ามาตรการระยะสั้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก็ควรมีเช่นกัน
.
ส่วนมาตรการระยะยาว ควรมีแผนกระตุ้นการลงทุนให้มากขึ้น เช่น การลงทุนรัฐวิสาหกิจ หรือการลงทุนในโครงการลงทุนโครงสร้างอีอีซี ซึ่งที่ผ่านมาอาจมีความไม่ชัดเจนด้านการเมือง ทำให้เกิดความล่าช้าไปบ้าง จึงอยากเร่งดำเนินการในโครงการต่างๆมากขึ้น รวมถึงต้องเร่งจัดทำแผนการเบิกจ่ายงบประมาณของปี 2563 ที่ล่าช้าด้วย