ดอกเบี้ยกระแทกแรง! SET Index เปิดวันนี้ร่วง 12.14 จุด รับแรงกดดันดอกเบี้ยขาขึ้น

ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,521.40 จุด ลบ 12.14 จุด หรือ 0.79% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 48,166.46 ล้านบาท โดยดัชนีฯ ผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน ทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,521.31 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,536.76 จุด

3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. DELTA มูลค่า 2,247.66 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 98.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 1.01%
2. CPALL มูลค่า 1,532.05 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 63.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.78%
3. MAKRO มูลค่า 1,519.65 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 38.25 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 5.56%

ส่วนตลาด SET50 ปิดที่ 917.28 จุด ปรับลง -7.37 จุดหรือ -0.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 29,161.69 ล้านบาท

ขณะที่ตลาด mai ปิดที่ 483.78 จุด ปรับลง -5.97 จุด หรือ -1.22% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,002.74 ล้านบาท

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน กล่าวว่า วันนี้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงตลอดทั้งวันเนื่องจาก 2 ปัจจัยหลักคือ 1.STARK กดดัชนีฯหุ้นไทยทำให้ บรรยากาศการลงทุนโดยรวมไม่สดใสเนื่องจากจากกลับมาซื้อขายของ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK โดยนักลงทุนไม่ทราบว่าการกลับมาซื้อขายครั้งนี้จะกระทบตลาดหุ้นอย่างไรบ้าง และ2.การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00% โดยยัง “ไม่ปิดประตูขึ้นดอกเบี้ยต่อ” หากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังไม่ปรับตัวไปตามคาดการณ์

“โดยปกติ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Real Rate) ควรเป็นบวก แต่สิ่งที่สำคัญคือถ้อยแถลงของ นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ กนง. ระบุว่า Real Rate ของ ประเทศไทยยังคงติดลบอยู่ ซึ่งมีผลทำให้ช่วงที่ผ่านมาเงินบาทอ่อนค่าเรื่อยมา ดังนั้นนี่ก็อาจเป็นเหตุผลที่ กนง. อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่า Real Rate จะกลับไปเป็นบวก”

ทั้งนี้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ กนง. จะกระทบตลาดหุ้นไทยไปอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ ดังนั้นวันพรุ่งนี้สถานการณ์ตลาดหุ้นโดยภาพรวมอาจำไม่สดใสมากขึ้น และแกว่งตัวอยู่ด้วยแนวรับในช่วง 1,520-1,505 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ในช่วง 1,530-1,539 จุด

หมายเหตุ – ข้อมูลเพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน