ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดิ่งหนักกว่า 200 จุด

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,990 จุด -222 จุด หรือ -0.67% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,132 จุด -26 จุด หรือ -0.63% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 12,081 จุด -49 จุด หรือ -0.41%

ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปรับเพิ่มสูงขึ้น +6.2%, +6.5% และ +6.8% ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังสามารถหยุดสถิติดัชนีหุ้นปิดร่วงลงถึง 7-8 สัปดาห์ติดกันเป็นผลสำเร็จ โดยเฉพาะดัชนีหุ้นดาวโจนส์ที่ปิดติดลบถึง 8 สัปดาห์ติดต่อกัน ทำสถิติยาวนานที่สุดในรอบ 99 ปี หรือตั้งแต่ปี 1923 เป็นต้นมา

สาเหตุจากนักลงทุนขายทำกำไรช่วงสั้นๆ หลังจากดัชนีหุ้นพุ่งทะยานรวมกว่า 1,000 จุดใน 2 วันทำการสุดท้ายในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความกังวล และความไม่แน่นอนของปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ยังคงมีอยู่ ถึงแม้เตัวเลขเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานในเดือนเมษายน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและราคาพลังงาน เพิ่มขึ้นเพียง 4.9% เมื่อเทียบกับในเดือนมีนาคมที่พุ่งสูงถึง 5.2% อาจสะท้อนสัญญาณเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาถึงจุดสูงสุดตามที่หลายฝ่ายกังวลมากันอย่างมากมาย

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 114.67 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.40 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.35% ยังคงมีราคาปิดสูงสุดในรอบ 2 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมผ่านมา ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 115.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.00 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.7% แต่ยังคงมีราคาสูงใกล้เคียงสถิติราคาปิดสูงสุดในรอบ 2 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมผ่านมา ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง พุ่งสูงขึ้นถึง +1.5% และ +6.0% ตามลำดับ

สาเหตุจากมีกระแสข่าวของประเทศสมาชิกในกลุ่มโอเปกพลัส โดยเฉพาะประเทศในตะวันออกกลาง ที่อาจเสนอให้กลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตรายเดือนมากกว่าที่ตกลงไว้ หลังจากสหภาพยุโรปมีมติคว่ำบาตรน้ำมันดิบ 2 ใน 3 กับรัสเซียอย่างเป็นทางการ และเป็นเอกฉันท์

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,833 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -18.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้น +0.5% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข่งค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นทรงตัวระดับ 3% ซึ่งเคยเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังเงินเฟ้อในเมษายนของสหรัฐอเมริกายังคงเพิ่มขึ้นที่ระดับ 8.3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้