ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 80 จุด น้ำมันดิบปิดลงอีกกว่า 3% เหลือกว่า 100 ดอลลาร์

301
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดร่วงกว่า 80 จุด น้ำมันดิบปิดลงอีกกว่า 3% เหลือกว่า 100 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,160 จุด -84 จุด หรือ -0.26% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,001 จุด +9 จุด หรือ +0.25% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 11,737 จุด +114 จุด หรือ +0.98% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ร่วงลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน

สาเหตุจากนักลงทุนรอการประกาศอัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายนของสหรัฐอเมริกาในคืนวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มสถานการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาที่ได้กลายเป็นปัจจัยลบที่รุนแรงต่อการลงทุนในขณะนี้

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 100.11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -3.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -3.2% ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 102.46 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -3.48 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.23% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากสภาพตลาดหุ้นนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ทรุดตกต่ำอย่างรุนแรงต่อเนื่องข้ามสัปดาห์ ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่ามากขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอยหลังมีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่สั่งล็อกดาวน์ป้องกันโรคระบาดโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ส่งผลตัวเลขนำเข้าน้ำมันดิบใน 4 เดือนแรกปีนี้ของจีนแผ่นดินใหญ่ลดลง 4.8% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,841.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -17.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาทะยานแข็งค่าขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน ใกล้เคียงระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นกลับพุ่งสูงขึ้นแตะ 3.1% สูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 3 ปี หลังธนาคารกลางสหรัฐอเมริกามีมติขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.5% ตามคาดหมาย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงประเมินความเสี่ยงจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย และแนวโน้มเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา หลังจากจำนวนการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนผ่านไปพุ่งขึ้นเหนือเป้าหมาย กดดันแนวโน้มเงินเฟ้อต่อเนื่อง