ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดลงกว่า 60 จุด น้ำมันดิบปิดยืนเหนือ 115 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 31,438 จุด -62 จุด หรือ -0.20% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,900 จุด -11 จุด หรือ -0.30% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,524 จุด -83 จุด หรือ -0.72% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปรับสูงขึ้น +5.4%, +6.5% และ +7.5% ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังทำสถิติดัชนีหุ้นรายสัปดาห์ที่ปิดขึ้นแดนบวกครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ติดต่อกัน

สาเหตุจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเกิดถดถอย รวมถึงรอประเมินตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่น และยอดขายราคาอสังหาริมทรัพย์

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 109.57 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.95 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.8% ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 115.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.97 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.74% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนรอติดตามมาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานที่มีต่อรัสเซียจากที่ประชุมของผู้นำสูงสุดกลุ่มจี 7 ที่เยอรมนี

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,823.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -6.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.36% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจาก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาปรับอ่อนค่าลง และนักลงทุนรอติดตามการประชุมเวทีธนาคารกลางกลุ่มยูโรที่ประเทศโปรตุเกส โดยเฉพาะแนวโน้มหรือมุมมองเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของกลุ่มยูโร