ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พลิกปิดลงเกือบ 90 จุด น้ำมันดิบโลกถูกถล่มเทขายแรงหลุด 90 ดอลลาร์

296
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ พลิกปิดลงเกือบ 90 จุด น้ำมันดิบโลกถูกถล่มเทขายแรงหลุด 90 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,726 จุด -85 จุด หรือ -0.26% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,151 จุด -3 จุด หรือ -0.08% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,720 จุด +52 จุด หรือ +0.41%

สาเหตุจากนักลงทุนรอการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนกรกฎาคมซึ่งจะประกาศในคืนวันนี้ โดยคาดการณ์ว่าจะมีตัวเลขเพิ่มขึ้นเพียง 258,000 คน ลดลงจากเดิมในเดือนมิถุนายนที่มีการจ้างงานสูงถึง 372,000 คน เพื่อประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเกิดภาวะถดถอยในโลกความเป็นจริงหรือไม่ เนื่องจากการจ้างงานยังมีสูง และอัตราว่างงานยังคงต่ำเป็นประวัติการณ์

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 88.54 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.3% ทำสถิติราคาต่ำสุดในรอบ 6 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ผ่านมา โดยราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ร่วงติดต่อกันกัน 2 วันทำการหายไปถึง 5.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 94.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.66 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.75% ทำสถิติราคาต่ำสุดในรอบเกือบ 6 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ร่วงติดต่อกันกัน 2 วันทำการหายไปถึง 6.42 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่งรายเดือนร่วงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2020 ขณะที่สำนักงานรอยเตอร์ส ปรับลดราคาน้ำมันดิบคาดการณ์เฉลี่ยทั้ง 2 แห่งในปี 2022 ลงมาอยู่ที่ 101.28 และ 105.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล นับเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 3 เดือนผ่านมา หรือตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมา

สาเหตุจากกลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตอีกเพียงวันละ 100,000 บาร์เรล หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 0.1% ของปริมาณความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลก ขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นสูงถึง 4.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้อย่างมากที่ 600,000 บาร์เรล นอกจากนี้ ความกังวลในภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมถึงการเร่งขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางที่แรงและเร็ว ซึ่งล่าสุด ธนาคารกลางอังกฤษปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 0.5% มากที่สุดในรอบ 27 ปี เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออังกฤษในเดือนมิถุนายนพุ่งสูงถึง 9.4% มากสุดในรอบ 40 ปี

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,810.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +34.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.89% ทำสถิติราคาทองคำสูงสุดในรอบ 1 เดือน ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน เมื่อสิ้นสุดเดือนกรกฎาคม พบว่าราคาทองคำยังคงลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ราคาทองคำร่วงลงกว่า 300 ดอลลาร์สหรัฐ

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าลงอย่างมาก ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นในคืนผ่านมาพลิกกลับลดลง นักลงทุนให้น้ำหนักกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะจีนแผ่นดินใหญ่เปิดการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ตรงบริเวณช่องแคบไต้หวัน