ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พลิกพุ่งกระฉูดกว่า 800 จุด น้ำมันดิบโลกปิดยืนเหนือ 94 ดอลลาร์

253
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ พลิกพุ่งกระฉูดกว่า 800 จุด น้ำมันดิบโลกปิดยืนเหนือ 94 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 30,038 จุด +827 จุด หรือ +2.83% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,669 จุด +92 จุด หรือ +2.60% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,649 จุด +232 จุด หรือ +2.23% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์กลับมาปิดเหนือ 30,000 จุดเป็นผลสำเร็จ นอกจากนี้ หยุดสถิติดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดค ปิดร่วงลง 6 วันทำการติดต่อกัน สำหรับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดพุ่งทะยานใน 1 วันดีที่สุดในรอบ 8 ปี 3 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2565

สาเหตุจากนักลงทุนชั่งน้ำหนักรายงานตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกันยายนที่แม้จะยังพุ่งสูงถึง 8.2% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 8.1% และสร้างความตื่นตกใจให้นักลงทุนถล่มเทขายหุ้นอย่างรุนแรงในช่วงเปิดตลาดหุ้นคืนผ่านมา โดยเฉพาะเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานเดือนกันยายน แต่ในที่สุด นักลงทุนประเมินว่าตัวเลขเงินเฟ้อเดือนกันยายนดังกล่าวเป็นไปในทิศทางที่หลายฝ่ายคาดไว้ นอกจากนี้ คาดหวังผลประกอบการไตรมาสที่ 3 จะออกมาในทิศทางที่ช่วยเหลือบรรยากาศการลงทุนในช่วงเดือนนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 89.11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.84 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.1% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 94.57 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.29% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากสำนักงานข้อมูลพลังงาน สหรัฐอเมริกา รายงานปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล และน้ำมันเชื้อเพลิงความร้อน ลดลง 4.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 2 ล้านบาร์เรลเมื่อสิ้นสุดวันที่ 7 ตุลาคม 2565 ทำให้ปริมาณสำรองน้ำมันดังกล่าวลดลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือนครึ่ง หรือนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,670 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -0.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.25% ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐย้อนกลับแข็งค่าขึ้น รวมถึงดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับพุ่งสูงขึ้นในรอบ 1 สัปดาห์กว่า หรือนับตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน หลังตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกันยายนพุ่งแตะ 8.2% ซึ่งสูงกว่าคาดหมายไว้จะเพิ่มขึ้น 8.1% นอกจากนี้ บันทึกการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ส่งสัญญาณชัดเจนว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นยังคงมีความชัดเจนต่อไป