ไนกี้ทำสำเร็จ เขี่ยอาดิดาสหลุดเป็นซัพพลายเออร์ทีมฟุตบอลเยอรมนี จบสัมพันธ์ยาวนาน 70 ปี

132
0
Share:
ไนกี้ ทำสำเร็จ เขี่ยอาดิดาสหลุดเป็นซัพพลายเออร์ ทีมฟุตบอลเยอรมนี จบสัมพันธ์ยาวนาน 70 ปี

สมาคมฟุตบอลแห่งชาติเยอรมัน หรือ Deutsche Fußballnationalmannschaft (DFB) เปิดเผยว่า ไนกี้ (Nike) แบรนด์ชุดเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาใหญ่ที่สุดในโลกจากสหรัฐอเมริกา ได้รับการเลือกให้เป็นซัพพลายเออร์อย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลเยอรมนี โดยมีผลเริ่มตั้งแต่ปี 2027 ถึงปี 2034 เป็นเวลา 7 ปี ในขณะเดียวกัน สัญญาซัพพลายเออร์ของแบรนด์อาดิดาส (Adidas) ที่ดำเนินการมาตลอดเวลานั้นจะสิ้นสุดลงในปี 2026 นี้

การเปลี่ยนแปลงซัพพลายเออร์ดังกล่าว ทำให้ปิดฉากความสัมพันธ์ระหว่างสมาคมฟุตบอลแห่งชาติเยอรมันกับแบรนด์อาดิดาส ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับโลกสัญชาติเยอรมนีมาอย่างยาวนานถึง 70 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1957 สาเหตุจากไนกี้ อินคอร์ปอเรชั่น ได้ให้ข้อเสนอการเงินที่ดีที่สุดกับสมาคมฟุตบอลแห่งชาติเยอรมัน หรือ Deutsche Fußballnationalmannschaft (DFB)

นายเบิร์นด นิวเอนดอร์ฟ ประธานสมาคมฟุตบอลแห่งชาติเยอรมัน หรือ DFB กล่าวว่า สมาคมฯ จะทำงานเพื่อความสำเร็จร่วมกันกับอาดิดาส ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ยืนยาวจนกระทั่งถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2026 สมาคมฟุตบอลเยอรมนีขอบคุณอาดิดาสอย่างมากกับความร่วมมือถึง 7 ทศวรรษ

ทางด้านอาดิดาส เปิดเผยว่า ได้รับการแจ้งจากสมาคมฟุตบอลแห่งชาติเยอรมนี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคมผ่านมา กับมติการตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งจะมีซัพพลายเออร์รายใหม่เริ่มตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ทีมฟุตบอลเยอรมนีภายใต้สมาคมฟุตบอลแห่งชาติเยอรมนี ซึ่งเป็นสมาคมฟุตบอลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีสมาชิกลงทะเบียนมากถึง 7 ล้านคนนั้น ได้ใช้สินค้าของอาดิดาสให้กับทีมฟุตบอลเยอรมนีอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ทีมชาติฟุตบอลเยอรมนีครองแชมป์ฟุตบอลโลกทั้ง 4 สมัย เริ่มจากในปี 1954 ถึง 2014 ต่อมาในปี 2019 อาดิดาสได้รับการต่อสัญญาไปสิ้นสุดในปี 2022 และได้รับการขยายระยะเวลาสัญญาไปอีก 4 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดในปี 2026

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ผ่านมา อาดิดาสเปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2023 พบว่ามีผลขาดทุนสุทธิ 58 ล้านยูโร หรือประมาณ 2,260 ล้านบาท ที่สำคัญ เป็นผลการดำเนินงานที่ขาดทุนครั้งแรกของอาดิดาสในรอบ 30 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1994 สาเหตุจาก อาดิดาสยกเลิกสัญญาทำการตลาดร่วมกันกับคานเย่ เวสต์ นักร้องชื่อดังระดับโลก ซึ่งมีปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ ทำให้รองเท้ารุ่นมีชื่อว่ายีซี (Yeezy) ที่ร่วมทำตลาดด้วยกันนั้น ต้องหยุดขายกระทันกันนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 เป็นต้นมา สินค้ารองเท้ารุ่นดังกล่าวค้างสต็อกจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ รองเท้ารุ่นยีซีสร้างผลกำไรอย่างมาก โดยในปีที่ผ่านไป อาดิดาสทำรายได้จากการขายรองเท้ารุ่นยีซี่ ที่ 750 ล้านยูโร หรือประมาณ 29,200 ล้านบาท มีผลกำไรสุทธิที่ 300 ล้านยูโร หรือประมาณ 11,700 ล้านบาท

นายบีจอร์น กัลเดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโออาดิดาส เปิดเผยว่า ได้เร่งส่งเสริมการขายรองเท้ารุ่นรุ่นอื่นๆของแบรนด์อาดิดาส เพื่อแก้ไขปัญหาสต็อกคงค้างจำนวนมาก ทำให้รุ่นแซมบ้า และรุ่นกาเซลล์ กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ส่งผลต่อยอดขายสินค้ารองเท้ากลับมาโต 8% ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2023

อย่างไรก็ตาม ซีอีโออาดิดาสยอมรับว่า ยอดขายในตลาดสหรัฐอเมริกาตกต่ำมากถึง 16% ในปี 2023 โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ของปีผ่านไป มียอดขายที่ย่ำแย่หนักที่สุด สะท้อนจากยอดขายลดลงมากถึง 21% ขณะที่ในปี 2024 นี้ ตลาดสหรัฐอเมริกาสำหรับอาดิดาสจะยังไม่ดีขึ้น ที่สำคัญ ยอดขายในตลาดนี้มีแนวโน้มตกลงอีก 5% สาเหตุจากตลาดสินค้าสปอร์ตแวร์ หรือชุดเสื้อผ้ากีฬาในตลาดซบเซา ท่ามกลางร้านค้าปลีกยังมีสต็อกสินค้าสูงมาก

ขณะที่ ไนกี้ เปิดเผยในคืนผ่านมาว่า คาดการณ์รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2025 ซึ่งจะเริ่มต้นปีงบปีงบประมาณในเดือนมิถุนายน จะลดลงถึง 1 หลักเปอร์เซ็นต์ สาเหตุจากภาวะการแข่งขันสูงและเข้มข้น สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวด้วยต้นทุนการเงินที่ยังสูง ผู้บริโภคตัดลดค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าจากภาระดอกเบี้ยและหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงปัญหาสินค้ารองเท้ารุ่นดังที่พยายามแก้ไขและเตรียมพัฒนารองเท้ารุ่นใหม่เพื่อสร้างยอดขายในอนาคต

ด้านราคาหุ้นของไนกี้ได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนต่อเนื่อง โดยพบว่า หุ้นไนกี้ให้ผลตอบแทนรายปีที่ขาดทุนปีต่อปี ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ทศวรรษ หรือตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา นอกจากนี้ มูลค่าของบริษัทไนกี้ อินคอร์ปอเรชั่น สูญหายไปมากกว่า 40% นับตั้งแต่ปีราคาหุ้นไนกี้พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในปี 2021 ซึ่งคิดเป็นมูลค่าของผู้ถือหุ้นมากถึง 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.68 ล้านล้านบาท

นักวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ไนกี้ตกอยู่ในภาวะจำเป็นอย่างมากในการแก้ไขสถานการณ์ความตกต่ำของความนิยมในแบรนด์และสินค้าที่มีอยู่ โดยเฉพาะการเร่งพัฒนาและผลิตสินค้าใหม่เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งที่กำลังเติบโตอย่างน่าทึ่ง ได้แก่ ออน โฮลดิ้งส์ เจ้าของแบรนด์รองเท้ากีฬาออน(ON) อาดิดาส เอจี เดคเกอร์ เอ้าท์ดอร์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตและเจ้าของแบรนด์โฮก้า (HOKA)