ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งปิดเกือบ 140 จุด ราคาน้ำมันดิบปิดร่วงเหลือกว่า 84 ดอลลาร์ ราคาทองคำปิดหลุด 1,790 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 36,052 จุด +138 จุด หรือ +0.39% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,630 จุด +16 จุด หรือ +0.37% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 15,649 จุด +53 จุด หรือ +0.34% ทำให้ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประครั้งใหม่

สาเหตุจากนักลงทุนเข้าลงทุนในหุ้นทุกกลุ่มที่มีผลประกอบการไตรมาส 3 เป็นไปตามคาด และเหนือกว่าคาดเป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่านักลงทุนจะติดตามการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ที่มีขึ้นถึง 2 วันติดต่อกันโดยจะเริ่มต้นขึ้นในวันพุธนี้ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ประเด็นสำคัญคือความชัดเจนในการเริ่มต้นยุติมาตรการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นในตลาดการเงินตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ รวมถึงการส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 83.57 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.48 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.6% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 84.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.21 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.3%

สาเหตุจากนักลงทุนทำกำไรช่วงสั้นเพื่อรอการประกาศตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 1.6 ล้านบาร์เรลในวันพฤหัสบดีนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนรอติดตามผลการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ ตลาดคาดว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงมติของกลุ่มโอเปกพลัสในการคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบรายเดือนต่อไป

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,789.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -6.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.4% สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มแข็งค่าเล็กน้อย ผลประกอบการของบริษัทในตลาดหุ้นกลับเหนือความคาดหมายเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลนักลงทุนโยกการลงทุนเข้าไปในตลาดหุ้นมากขึ้น รวมถึงรอฟังผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในวันพฤหัสบดีนี้