ดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนซบเซาในรอบ 4 ปี

765
0
Share:

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน หรือ FETCO Investor Confidence Index ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลง 9.91% มาอยู่ที่ระดับ 72.75 อยู่ในเกณฑ์ซบเซาเป็นเดือนแรกในรอบ 4 ปี โดยความเชื่อมั่นนักลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ซบเซา
.
หากพิจารณารายกลุ่ม กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศลดลงมาอยู่ที่เกณฑ์ซบเซา จากเกณฑ์ทรงตัวในเดือนก่อน ขณะที่กลุ่มบัญชีนักลงทุนรายบุคคลเพิ่มขึ้นจากเกณฑ์ซบเซามาอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว และกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่เกณฑ์ซบเซาเช่นเดิม
.
ผลสำรวจพบว่านักลงทุนกังวลสถานการณ์การท่องเที่ยวและสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ เป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน ขณะที่นักลงทุนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะการประกาศปันผลของบริษัทจดทะเบียน นโยบายภาครัฐ และภาวะเศรษฐกิจในประเทศจากการลงนามทางการค้าของสหรัฐและจีน เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด
.
ขณะที่ปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่ต้องติดตามได้แก่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจากเชื้อไวรัสโคโรน่า // ปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง // แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังการลงนามข้อตกลงทางการค้าขั้นที่ 1 //ทิศทางนโยบายทางการเงินและนโยบายทางเศรษฐกิจของธนาคารกลางทั่วโลก สำหรับปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตามคือการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐบาล นโยบายเศรษฐกิจภาครัฐเพื่อกระตุ้นการลงทุน การส่งออกและการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว แนวโน้มค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลง ผลของการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย และการไหลเข้าออกของเงินทุน
.
โดยในช่วงเดือนมกราคม ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน โดยช่วงต้นเดือนดัชนีทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับใกล้เคียง 1,600 จุด แต่หลังจากนั้นดัชนีเคลื่อนไหวลดลงค่อนข้างมากจากร่างพรบ.งบประมาณล่าช้าและปัญหาการแพร่ขยายของเชื้อไวรัสโคโรน่าในจีนและการห้ามนักท่องเที่ยวจีนกรุ๊ปทัวร์เดินทางไปยังต่างประเทศ ทำให้ลดลงมาอยู่ที่ 1,510-1,520 จุด ในช่วงปลายเดือน
.
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 2 คาดว่าจะมีโอกาสห็นการรีบาวด์ของดัชนีตลาดหุ้นไทยหรือกลับมาแตะ 1,600 จุด จากปัจจัยสนับสนุนอย่างพ.ร.บ.การเบิกจ่ายงบประมาณรัฐบาลที่ไม่ได้ล่าช้าอย่างที่คาดการณ์ การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และการระบาดของไวรัสโคโรนาที่เบาบางลงจากยอดผู้ติดเชื้อในปัจจุบันที่ประเมินว่าอยู่ในจุดสูงสุดแล้ว จากปัจจัยทั้งหมดจะทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงดังกล่าว โดยประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวในช่วง 2%-2.2%