ดาวโจนส์ปิดร่วงเกือบ 100 จุด น้ำมันดิบปิดลงเหลือกว่า 110 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,794 จุด -96 จุด หรือ -0.29% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,363 จุด -23 จุด หรือ -0.53% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 13,537 จุด -214 จุด หรือ -1.56%
สาเหตุจากนักลงทุนประเมินสถานการณ์วิกฤตระหว่างรัสเซียและยูเครนเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 อย่างต่อเนื่อง รัสเซียยังคงส่งสัญญาณไม่ละความพยายามในการบุกรุกรานยูเครน นักลงทุนรอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนกุมภาพันธ์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเป็นเดือนสุดท้ายก่อนการประชุมแบงก์ชาติสหรัฐอเมริกาในเดือนนี้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกโดยเฉพาะน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐ ที่ทะยานสูงสุดในรอบ 14 ปีส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงหลายทศวรรษ
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 107.67 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.93 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -2.65% โดยในช่วงระหว่างการซื้อขาย มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 116.57 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 หรือในรอบ 14 ปี
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 110.46 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.47 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.19% โดยในช่วงระหว่างการซื้อขาย มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 119.84 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2012 หรือ 9 ปีครึ่ง
สาเหตุจากนักลงทุนขายทำกำไรจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงในรอบ 10 ปีกว่า แต่ยังคงประเมินสถานการณ์วิกฤตรุนแรงระหว่างรัสเซียกับยูเครน นอกจากนี้ นักลงทุนจับตามองการประชุมแบงก์ชาติสหรัฐอเมริกาในเดือนนี้ ที่จะมีการประบขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งแรก
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,935.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +13.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.7% ยังคงมีราคาใกล้เคียงสถิติราคาทองคำปิดสูงสุดในรอบ 18 เดือน หรือนับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน 2564 โดยเมื่อวันพฤหัสบดีในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกที่รัสเซียเปิดการโจมตีทางทหารกับยูเครน ส่งผลให้ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งทะยานขึ้นถึง 1,973.96 ดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 18 เดือน
สาเหตุจากนักลงทุนประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของทั้งรัสเซียและยูเครน โดยมองว่ามาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกมีความรุนแรงมากขึ้นกับระบบการเงินระหว่างประเทศกับรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดแข็งค่าต่อเนื่อง และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี ยังคงทรงตัว
