ดาวโจนส์ปิดลงกว่า 60 จุด น้ำมันดิบปิดย้อนพุ่งเหนือ 113 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 35,228 จุด -65 จุด หรือ -0.19% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,602,จุด -29 จุด หรือ -0.63% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 14,442 จุด -177 จุด หรือ -1.21%

.

สาเหตุจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกหวนพุ่งกว่า 3% ท่ามกลางความไม่ชัดในสัญญาณจากกองทัพรัสเซียที่จะลดปฏิบัติการทางทหารใกล้กับกรุงเคียฟ และเมืองสำคัญทางภาคเหนือของยูเครน

.

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 107.82 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +3.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +3.4% ก่อนหน้านี้ เมื่อกว่า 2 สัปดาห์ผ่านมา มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

.

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 113.35 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +3.06 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.9% ก่อนหน้านี้ เมื่อกว่า 2 สัปดาห์ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

.

สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 3.4 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ชาติตะวันตกเตรียมพิจารณามาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานชุดใหม่กับรัสเซีย

.

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,939.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +28.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.11% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

.

สาเหตุจากสถานการณ์สงครามรัสเซียกับยูเครนยังคงตกอยู่ในความไม่แน่นอนสูง และไม่มีความชัดเจนในผลการเจรจาสันติภาพแต่อย่างใด นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าในคืนผ่านมา