โควิดพันธ์ุโอไมครอนติดแรง 1 ต่อ 3-5 คน ยูเคชี้โควิด-19 ระบาดอีก 1 ปีครึ่ง
ศาสตราจารย์คริส วิตตี้ หัวหน้าคณะแพทย์ และที่ปรึกษาคณะปฏิบัติการโรคระบาดโควิด-19 รัฐบาลสหราชอาณาจักร กล่าวว่า สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 อาจจะอยู่ต่อไปอีก 18 เดือน หรืออีก 1 ปีกว่าจากนี้ จนกระทั่งวัคซีนป้องโรคระบาดโควิด-19 จะสามารถควบคุมเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ใหม่ อย่างไรก็ตาม ในทุกๆ 6 เดือนข้างหน้าจะต้องมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นกว่า 6 เดือนที่ผ่านไป
ในด้านสถานการณ์ผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนั้น ปัจจุบันแม้จะมีตัวเลขรายงานว่ามีทั้งหมด 15 ราย แต่ในความเป็นจริงผู้ป่วยด้วยสายพันธุ์โอไมครอนที่ต้องนอนโรงพยาบาลจะมีมากกว่านร้าในสหราชอาณาจักร ดังนั้น มีความเป็นไปไม่ได้ที่จำนวนผู้ป่วยสายพันธุ์โอไมครอนที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลรายวันอาจจะสูงมากกว่าสถิติที่กำหนดไว้ในเดือนมกราคม 65 นั่นหมายถึงอาจมีจำนวนมากถึงวันละ 4,583 ราย
ศาสตราจารย์คริส วิตตี้ กล่าวย้ำว่า ขณะนี้สายพันธุ์โอไมครอนในสหราชอาณาจักรจะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าในทุกๆ 2 วัน
แพทย์หญิงซูซาน ฮ็อพกิ้นส์ หัวหน้าที่ปรึกษา องค์กรความมั่นคงสาธารณสุขแห่งสหราชอาณาจักร หรือ UKHSA เปิดเผยต่อคณะกรรมการสาธารณสุขว่า อัตราการแพร่ระบาดติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนพุ่งสูงกว่าสายพันธุ์เดลต้า โดยผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน 1 คน จะแพร่ระบาดเชื้อดังกล่าวติดได้ระหว่าง 3-5 คน ในขณะที่ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าในปัจจุบันจะแพร่ระบาดเชื้อระหว่าง 1.1 ถึง 1.2 คน นั่นหมายถึงพันธ์ุโอไมครอนมีอัตราแพร่ระบาดติดเชื้อระหว่างคนสูงถึง 2.7 ถึง 4.1 เท่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลต้าในสหราชอาณาจักร
แพทย์หญิงซูซาน ฮ็อพกิ้นส์ กล่าวต่อไปว่า ข้อมูลที่เชื่อถือได้ และมีความแม่นยำสูงเกี่ยวกับสายพันธุ์โอไมครอนจะยังไม่สามารถได้รับก่อนถึงช่วงสัปดาห์สุดท้ายของธันวาคม หรือในช่วงเทศกาลคริสต์มาสถึงปีใหม่หน้าเป็นอย่างเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม อาจล่าช้าไปถึงช่วงเดือนมกราคมด้วย
ทั้งนี้ หัวหน้าคณะแพทย์ และที่ปรึกษาคณะปฏิบัติการโรคระบาดโควิด-19 รัฐบาลสหราชอาณาจักร กล่าวว่า มองว่าสถิติติดเชื้อรายวันมากเป็นประวัติการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งใหม่นี้จะถูกทำลายอีกในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า โดยส่วนตัวมีความกังวลอย่างมากที่จะเห็นอัตราการเจ็บป่วยเพื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 10% และในจำนวนนี้มี 1 ใน 3 อยู่ในกรุงลอนดอน ดังนั้น จึงอยากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังตัวมากที่สุดในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และฉลองปีใหม่ โดยไม่ควรเข้าไปปะปนกับคนเป็นจำนวนมาก
