ดาวโจนส์ปิดสูงขึ้นกว่า 80 จุด น้ำมันดิบปิดขึ้นเหนือ 107 ดอลลาร์

306
0
Share:
หุ้น

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,061 จุด +84 จุด หรือ +0.26% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,155 จุด +23 จุด หรือ +0.57% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 12,536 จุด +201 จุด หรือ +1.63%
.
เดือนเมษายนที่ผ่านไป ส่งผลให้ดัชนีหุ้นนาสแดครายเดือนทรุดลงเหวถึง -13.3% ทำสถิติเลวร้ายที่สุดในรอบ 13 ปี 6 เดือน หรือตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2008 เป็นต้นมา นอกจากนี้ยังทำสถิติจุดต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบปีนี้ควบคู่กับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ที่ทำสถิติปิดต่ำสุดในรอบปีนี้ และร่วงระนาวมากถึง -8.8% ในเดือนเมษายน ทำสถิติตกต่ำเลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปี 1 เดือน หรือตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2020
.
ในขณะที่เดือนเมษายน ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดดำดิ่งอย่างรุนแรงถึง -4.9%, -8.8% และ -13.3% ตามลำดับ นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นนาสแดคเข้าสู่ภาวะตลาดหมีสมบูรณ์แบบ เนื่องจากปิดดำดิ่งมากถึง -23.9% จากสถิติสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติการณ์ในช่วงผ่านมา ด้านดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และดาวโจนส์ ร่วงระนาว -14.3% และ 10.8% ตามลำดับ จากสถิติระหว่างวันเป็นประวัติการณ์ ส่งผลเข้าสู่ภาวะปรับฐานสมบูรณ์แบบ ในขณะที่ตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงคืนผ่านมา 29 เมษายน 2565 ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 และนาสแดค ดำดิ่งรุนแรงถึง -9.3%, -13.3% และ -21.2% ตามลำดับ
.
สาเหตุจากนักลงทุนหวนกลับมาซื้อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีครั้งใหม่ หลังจากมีราคาร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านไป หลังจากที่เดือนเมษายนเป็นเดือนแห่งความย่ำแย่ของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบรุนแรงอื่นๆ ยังคงมีน้ำหนักต่อการลงทุน ได้แก่ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเร่งขึ้นดอกเบี้ยมากถึง 0.5% ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมวันที่ 3-4 พฤษภาคมนี้ อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาที่พุ่งสูงในรอบ 41 ปี สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในจีนแผ่นดินใหญ่ที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ต่อเนื่อง กระทบการทำงานของโรงงานภาคอุตสาหกรรม และการใช้น้ำมันดิบลดลง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่เทียบสกุลสำคัญทั่วโลกทะยานแข็งค่าต่อเนื่องถึงสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี
.
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 105.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.48 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.46% ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
.
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 107.58 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
.
สาเหตุจากรัฐบาลเยอรมนีประกาศสนับสนุนการคว่ำบาตรน้ำมันดิบรัสเซีย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนท่าทีที่ก่อนหน้านี้ไม่เห็นด้วยกับมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันดิบจากรัสเซียในช่วงแรกๆที่รัสเซียทำสงครามบุกรุกประเทศยูเครน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่ารัสเซียจะมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบลดลงมากถึง 17% ในปี 2565
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,863.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -47.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -2.5% ทำสถิติราคาทองคำโลกต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ผ่านมา ราคาทองคำตลาดโลกเดือนเมษายนที่ผ่านไป ซึ่งลดลง -1.5% กลายเป็นราคาทองคำรายเดือนที่ลดลงเป็นเดือนแรกในรอบ 4 เดือนผ่านมา ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
.
สาเหตุจากดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับทะยานแข็งค่าสูงสุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่ หรือตั้งแต่มีนาคมปี 2002 เป็นต้นมา รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี พุ่งทะยานขึ้นถึงระดับ 3.1% สูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ท่ามกลางอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในไตรมาสที่ 1 กลับชะลอตัวลง -1.4% ที่สำคัญ นักลงทุนรอการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในวันที่ 3-4 พฤษภาคมนี้