หุ้นไทยปิดตลาดร่วงลง 7.07 จุด ยังไร้ปัจจัยใหม่หนุนนักลงทุนรอติดตามเงินเฟ้อสหรัฐ

ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดวันนี้ที่ 1,373.92 จุด ลดลง 7.07 จุด (-0.51%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 35,320.01 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงสวนทางตลาดภูมิภาค ไร้ปัจจัยใหม่หนุนดัชนี ขณะที่การ ครม. ตีกลับมาตรการปรับขึ้นค่าแรงกลับไปพิจารณาใหม่ และมาตรการตรึงค่าไฟ ทำให้เกิดแรงขายกลุ่มโรงไฟฟ้า

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งแดนลบตลอดทั้งวัน โดยทำจุดต่ำสุด 1,370.04 จุด ทำจุดสูงสุด 1,383.41 จุด

3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,600.47 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
2. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,479.98 ล้านบาท ปิดที่ 128.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3. DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,381.20 ล้านบาท ปิดที่ 83.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า หุ้นไทยวันนี้จะแกว่งตัวไซด์เวย์ ซึ่งยังรอการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือนพ.ย.ที่จะออกมาในคืนนี้ ประกอบกับยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางใหญ่ที่จะอยู่ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แม้ว่าตลาดจะคาดว่าแนวโน้มของธนาคารกลางจะคงดอกเบี้ย และยุติการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว แต่ยังต้องรอถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางต่างๆที่ชัดเจน และมีผลต่อทิศทางของตลาดหุ้น

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยอาจจะมีแรงหนุนเข้ามาจากกองทุน Thai ESG ซึ่งจะช่วยหนุนในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ทำให้ยังมีปัจจัยหนุนต่อดัชนีได้บ้างในระยะสั้น แต่ยังขาดปัจจัยใหม่ดันดัชนีให้ขึ้นไปได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่วนตลาดหุนอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ที่เปิดมาแล้วส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก โดยมองกรอบวันนี้ ให้แนวต้าน 1,400 จุด แนวรับ 1,370 จุด