ตลาดหุ้นสหรัฐสุดคึกคัก ดาวโจนส์ปิดทะยานเกือบ 300 จุด เอสแอนด์พี 500 ปิดสูงสุดในรอบปี

103
0
Share:
ตลาดหุ้นสหรัฐสุดคึกคัก หุ้น ดาวโจนส์ ปิดทะยานเกือบ 300จุด เอสแอนด์พี 500 ปิดสูงสุดในรอบปี

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 36,245 จุด +294 จุด หรือ +0.82% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,594 จุด +26 จุด หรือ +0.59% และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 14,305 จุด +78 จุด หรือ +0.55% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดสูงสุดในรอบปีนี้เป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดสูงสุดในรอบปี 2023 นี้

ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +2.4%, +0.77% และ +0.38% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ปิดแดนบวกต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน ส่งผลจะทำสถิติปิดรายสัปดาห์ยาวนานที่สุดในรอบในรอบกว่า 2 ปี

สิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน 2023 พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้นถึง +8.8%, +8.9% และ +10.7% ตามลำดับ ทำให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทำสถิติปิดรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 1 ปี 1 เดือน หรือตั้งแต่ตุลาคมปี 2022 ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดคทำสถิติปิดรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 1 ปี 5 เดือน หรือตั้งแต่กรกฎาคมปี 2022

ขณะที่นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงเดือนพฤศจิกายนผ่านไป พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้นถึง +8.9%, +19% และ +35.9% ตามลำดับ

สาเหตุจากประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา กล่าวปาฐกถาพิเศษในคืนผ่านมา โดยมีใจความสำคัญว่าความเสี่ยงของการใช้เครื่องมือดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐไม่ว่าจะปรับขึ้นสูงเกินไป และปรับลงต่ำเกินไป กำลังจะนำไปสู่ความสมดุลย์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เฟดไม่ได้พิจารณาเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวในขณะนี้ ทำให้นักลงทุนประเมินในทิศทางบวก และเกิดความมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะจบสิ้นรอบการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอาจเป็นไปได้สูงที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกในเดือนมีนาคมปี 2024

ท่ามกลางผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 4.213% ทำสถิติต่ำสุดในรอบ3 เดือน ถึงแม้ว่าตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในไตรมาสที่ 3 ที่ปรับปรุงใหม่กลับขยายตัวสูงกว่าคาดหมายมาอยู่ที่ระดับ 5.2% จากที่ประเมินไว้ที่ 5.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ส่งผลเป็นตัวเลขจีดีพีที่ขยายตัวมากสุดในรอบ 2 ปีท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐที่ทรงตัวในระดับสูงกว่า 22 ปี ด้านผู้ว่าการธนาคารสหรัฐอเมริกา หรือเฟดสาขาริชมอนด์ กล่าวว่า ในการประชุมเฟดไม่เคยตีตกการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ถ้าหากตัวเลขเงินเฟ้อไม่ได้มีสัญญาณชะลอตัวลงอย่างชัดเจน

ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนธันวาคมอยู่ที่ 100% จากเดิมที่โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 91% ยังคาดการณ์ว่ามีโอกาสครึ่งต่อครึ่งที่เฟดจะลดดอกเบี้ยดังกล่าวครั้งแรกในต้นเดือนมีนาคมปี 2024