ตลาดหุ้นไทยปิดบวกทะยาน 29.13 จุด ศก. เศรษฐกิจจีน-สหรัฐออกมาดีหนุนดัชนีขึ้น

ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทย ปิดวันนี้ที่ 1,415.17 จุด ปรับขึ้น 29.13 จุด หรือ +2.10% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 63,738.22 ล้านบาท โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ผันผวนในทิศทางปรับตัวขึ้นทั้งวัน ซึ่งทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,400.26 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,416.89 จุด

ทั้งนี้หุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงเพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและจีนเป็นไปตามคาด แต่พรุ่งนี้อาจทรงตัวเพราะนักลงทุนยังสับสนกับท่าทีของตลท.ว่าไม่พบความผิดปกติในตลาดหุ้น

3 อันดับหลักทรัพย์ ที่มีการซื้อขายสูงสุดได้แก่
1. BBL มูลค่า 3,081.56 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 151.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.66%
2. CPALL มูลค่า 2,316.80 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 57.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 3.62%
3. ADVANC มูลค่า 2,124.48 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 218.00 บาท ลดลง 5.00 บาท หรือ 2.24%

บล. ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์จาก 3 ปัจจัยคือ เศรษฐกิจจีนอยู่ในขาลงดังนั้นนักลงทุนจำนวนมากจึงต้องการเห็นตัวเลขเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว ซึ่งตัวเลขค้าปลีกและอุตสาหกรรมจีนก็ขยับตัวขึ้นสอดคล้องกับความต้องการ การที่นักลงทุนไม่ต้องการเห็นตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเติบโตอย่างร้อนแรง ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาเมื่อคืนนี้ก็เป็นไปตามคาด โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (CPI) ต่ำกว่าที่ตลาดคาดจึงทำให้นักลงทุนมองว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยุติ “ดอกเบี้ยขาขึ้น” และตลาดหุ้นไทยอันเดอร์เพอร์ฟอร์มมาอย่างยาวนาน โดยล่าสุดรายย่อยเริ่มมีปากมีเสียงต่อพฤติกรรมการขายชอร์ตและการเทรดด้วยคอมพิวเตอร์ จึงมีแรงกล้าซื้อมากขึ้น

ทั้งนี้ บล. ลิเบอเรเตอร์ ประเมินว่า ด้วยท่าทีของนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) บอกว่าไม่พบพฤติรรมการทำ Naked Short Sell หรือพฤติกรรมผิดปกติอื่น ทว่านักลงทุนจะไม่เชื่อแบบนั้น ดังนั้นพรุ่งนี้ (16 พ.ย.) ดัชนีฯ จึงมีโอกาสแกว่งตัวออกข้างพยายามสร้างฐานมากกว่าจะขยับตัวขึ้นต่อในกรอบ 1,400-1,420 จุด