ติดสปีดรวย! มหาเศรษฐี 1% ของโลกรวยเร็ว-รวยทิ้งห่างเกือบ 2 เท่าของคนที่เหลือทั่วโลก

245
0
Share:
ติดสปีดรวย! มหาเศรษฐี 1% ของโลก รวย เร็ว-รวยทิ้งห่างเกือบ 2 เท่าของคนที่เหลือทั่วโลก

อ็อกซ์แฟม (Oxfam) เปิดเผยรายงานความเหลื่อมล้ำประจำปีว่า นับตั้งแต่ปี 2020 ถึงปี 2022 พบว่ามีประชากรที่มีความร่ำรวยที่สุด 1% ของโลก มีความร่ำรวยเพิ่มขึ้นสะสมเกือบ 63% หรือเกือบ 2 เท่าของความร่ำรวยที่จำนวนประชากรที่เหลือทั่วโลกสร้างขึ้นมาใน 2 ปีผ่านมา โดยมูลค่าความร่ำรวยที่เกิดขึ้นมาใหม่ในช่วงปี 2020-2022 มีมูลค่ารวม 42 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,428 ล้านล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวเป็นมูลค่าความร่ำรวยของประชากร 1% ที่รวยที่สุดในโลกมีเพิ่มขึ้นเป็น 26 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 884 ล้านล้านบาท หรือราว 63% ของทั้งหมด

ในขณะที่ส่วนที่เหลือถึง 99% ของประชากรทั่วโลกสามารถสร้างความร่ำรวยสะสมใหม่รวมกันเป็น 16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 544 ล้านล้านบาทเท่านั้นในช่วง 2 ปีผ่านมา

รายงานดังกล่าวระบุต่อไปว่า ในสัดส่วน 90% ของจำนวนประชากรฐานล่างสุดของโลกที่มีรายได้เพิ่มขึ้นทุกๆ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือทุกๆ 34 บาทนั้น พบว่ามหาเศรษฐีจะได้รายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1,700,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 57.8 ล้านบาท

นายนาบิล อาหม็ด ผู้อำนวยการสถาบันอ็อกซ์แฟม อเมริกา กล่าวว่า สาเหตุจากในช่วงระหว่างปี 2020-2022 ซึ่งเป็นช่วงวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 รุนแรง และวิกฤตเศรษฐกิจโลกตกต่ำรุนแรง ส่งผลให้รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกต้องใช้มาตรการอัดฉีดสภาพคล่องกว่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพยุงเศรษฐกิจไม่ให้พังทลาย และลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ทั่วโลก ทำให้มีสภาพคล่องที่มีต้นทุนต่ำเป็นประวัติการณ์ล้นตลาดทุน เกิดการการลงทุนของบรรดามหาเศรษฐีในตลาดทุน เช่น ตลาดหุ้น ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์ เมื่อเทียบกับราคาตกต่ำเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19

นอกจากนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง โดยเฉพาะบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร และพลังงาน สามารถบริหารจัดการบนวิกฤตได้เป็นอย่างดี ทำให้ผลกำไรของเอกชนใน 2 กลุ่มดังกล่าวพุ่งสูงขึ้นถึง 2 เท่าในปี 2022 สร้างผลตอบแทนมากมายดับไปให้บรรดาผู้ถือหุ้นที่เป็นมหาเศรษฐีร่ำรวยระดับต้นๆของโลก

มหาเศรษฐีทั่วโลกมีความมั่งคั่งสุทธิรวมกันเป็น 11.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 404.6 ล้านล้านบาท ถึงแม้ว่ามูลค่าดังกล่าวจะลดต่ำลงเกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 68 ล้านล้านบาท นับตั้งแต่ปลายปี 2021 เป็นต้นมา แต่กลับพบว่ายังมีมูลค่าสูงกว่า 8.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 292.4 ล้านล้านบาท ในเดือนมีนาคมปี 2020

อ็อกซ์แฟม เปิดเผยต่อไปว่า นอกเหนือจากความร่ำรวยที่พุ่งทะยานสูงขึ้นของประชากร 1% ของโลกที่ร่ำรวยที่สุดแล้ว ความยากจนทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงต้นๆของการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้เกิดภาวะความร่ำรวยสุดๆ และความยากจนสุดๆ เกิดขึ้นพร้อมๆกันภายในปีเดียวกัน นับเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี หรือตั้งแต่ปี 1997 เป็นต้นมา

อ็อกซ์แฟมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างสุดโต่งว่า ต้องใช้มาตรการภาษีด้วยการจัดเก็บ 1 ครั้งในมูลค่าจำนวนมาก ได้แก่ การขึ้นอัตราภาษีความร่ำรวย และภาษีลาภลอย เพื่อเป็นมาตรการหยุดยั้งการทำกำไรท่ามกลางสถานการณ์วิกฤต นอกจากนี้ ต้องปรับขึ้นอัตราภาษีกับมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยในสัดส่วน 1% ของประชากรโลกดังกล่าว เป็นอย่างน้อย 60% ของรายได้