ถล่มก่อนวันสุดท้าย! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทรุดกว่า 360 จุด น้ำมันดิบโลกปิดหลุด 83 ดอลล์

211
0
Share:
ถล่มก่อนวันสุดท้าย! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดทรุดกว่า 360 จุด น้ำมันดิบโลกปิดหลุด 83 ดอลล์

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,875 จุด -365 จุด หรือ -1.10% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,783 จุด -46 จุด หรือ -1.20% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,213 จุด -139 จุด หรือ -1.35%

สาเหตุจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ 3.85% สะท้อนความกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาถดถอย นอกจากนี้ นักลงทุนมองภาพรวมเศรษฐกิจปี 2023 ยังคงเต็มไปด้วยความเสี่ยงและปัจจัยไม่แน่นอนสูง แม้รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่จะเร่งผ่อนคลายนโยบายซีโร่โควิดก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกากำลังใกล้สิ้นสุดปีนี้ พบว่าจะเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 14 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา หรือตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจการเงินในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังเป็นปีที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนติดลบจนทำให้ผลตอบแทนในช่วง 3 ปีติดกันก่อนหน้านี้เป็นศูนย์ โดยในปี 2022 จนถึงคืนผ่านมา 28 ธันวาคม ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ -9.66% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 -21.09% และดัชนีหุ้นนาสแดค -36.25% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และดัชนีหุ้นนาสแดคอยู่ในภาวะหมี หรือ Bear Market

นอกจากนี้ ในเดือนธันวาคมจนถึงคืนผ่านมา 28 ธันวาคม ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ -5.02% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 -7.40% และดัชนีหุ้นนาสแดค -11.32% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นนาสแดคอยู่ในภาวะปรับฐาน หรือ Correction

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 78.96 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.57 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.7% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 83.26 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.07 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.3% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนแผ่นดินใหญ่ที่รุนแรงและเป็นวงกว้างทั่วประเทศ จะส่งผลกดดันให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงต่อเนื่องในปี 2023 นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค กล่าวว่าประเทศรัสเซียอาจลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงระหว่าง 5% ถึง 7% ในช่วงต้นปี 2023 เพื่อเป็นการตอบโต้ต่อมาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลของโลกตะวันตก การส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียในเดือนธันวาคมมีแนวโน้มสูงที่จะลดต่ำลงมากถึง 20% หลังจากถูกกลุ่มสหภาพยุโรป กลุ่มจี7 และออสเตรเลีย เริ่มใช้มาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียโดยมีผลตั้งแต่ 5 ธันวาคมเป็นต้นไป

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,812.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -9.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ -0.6% ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำตลาดโลกปีนี้มีความเป็นไปไม่ได้สูงที่จะลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยเฉพาะมีราคาลดลงมากถึง -250 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์นับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่า และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปีกลับเพิ่มสูงขึ้น หลังจากรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่เร่งผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 ด้วยการยกเลิกการกักตัวผู้เดินทางเข้าจีนตั้งแต่ 8 มกราคมเป็นต้นไป สะท้อนความเสี่ยงเศรษฐกิจจีนและโลกชะลอตัวลงในปี 2023