ทองไม่หยุด! ราคาทองคำโลกปิดขึ้นอีกเหนือ 2,045 รวมขึ้น 5 วันติดกันรวมกว่า 56 ดอลลาร์

220
0
Share:
ทองไม่หยุด! ราคา ทองคำโลก ปิดขึ้นอีกเหนือ 2,045 รวมขึ้น 5 วันติดกันรวมกว่า 56 ดอลลาร์

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,044.18 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +3.31 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.2% ส่งผลราคาทองคำปิดขึ้น 5 วันติดกันรวม +53.02 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.70%

ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,045.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +5.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.3% ส่งผลราคาทองคำปิดขึ้น 5 วันติดกันรวม 56.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +3.70%

ดังนั้น ราคาทองคำตลาดโลกทำสถิติปิดสูงสุดในรอบเกือบ 7 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคมเป็นต้นมา

ทั้งนี้ในเดือนตุลาคม พบว่าราคาทองคำตลาดโลกพุ่งทะยานขึ้นถึง 8% โดยนับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่กลุ่มฮามาสติดอาวุธเปิดฉากโจมตีอิสราเอลจนนำไปสู่สงครามรุนแรงในรอบ 75 ปีของทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้ราคาทองคำโลกพุ่งทะยานขึ้นถึง 190.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เนื่องจากราคาทองคำตลาดโลกเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2023 อยู่ที่ระดับ 1,809.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

เมื่อกลางเดือนเมษายนปี 2023 ผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจาก ถึงแม้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกแข็งค่าขึ้นในคืนผ่านมา หลังจากเมื่อวานนี้ร่วงลง 0.5% ทำสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่กลางสิงหาคมผ่านมานั้น แต่ในแง่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐรายเดือน พบว่าทำสถิติร่วงอ่อนค่าในรอบปีนี้ นอกจากนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 4.3% ทำสถิติเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน ซึ่งเป็นผลจากการประเมินแนวโน้มรอบการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอาจจบสิ้นแล้ว

ขณะที่ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมสิ้นเดือนธันวาคมนี้อยู่ที่ 100% จากเดิมที่โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 91% ขณะเดียวกัน โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดในการประชุมต้นเดือนพฤษภาคมปี 2024 อยู่ที่ 70% จากเดิมที่ระดับ 50%