ทะลุหมื่น! ผู้ต้องขังติดโควิดในเรือนจำกว่า 10,384 คน เร่งประสานขอวัคซีนฉีดในเรือนจำเพื่อสกัดการระบาด

666
0
Share:

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมแถลงข่าว กรณีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำเนื่องจากขณะนี้ตัวเลขแล้วผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำต่างๆ ได้มีกว่า 10,384 ราย โดยหลังจากกรณีดังกล่าวทางเรือนจำได้จะทำการเน้นการตรวจเชิงรุก ผู้ต้องขัง เจ้าหน้าที่เรือนจำและเจ้าหน้าที่ส่วนกลางทุกคน โดยได้มีจำนวนกว่า 55,000 ราย โดยได้ทำการรักษาต่อเนื่องโดยการใช่ยาฟ้าทะลายโจร และยาฟาวิพิราเวียมาใช้ในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวที่ติดเชื้อไม่มีอาการ และกลุ่มสีเหลืองที่เริ่มมีอาการ

.

ซึ่งผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำจะไม่สามารถไปไหนได้ เเละมีห้องนอนอยู่อย่างแออัด ดังนั้นผู้ต้องขังและผู้คุม ที่ไม่ติดเชื้อในเรือนจำทุกที่ จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้เรือนจำจะต้องประกาศจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพื่อการตรวจสอบชัดเจน แต่เนื่องจากเรือนจำได้มีการขาดแคลนแพทย์ พยาบาล เครื่องมือ อุปกรณ์การแพทย์ พื้นที่รองรับผู้ต้องขังป่วยที่มีจำนวนมากหลังการแพร่ระบาด ขณะที่จำนวนผู้ต้องขังได้มีล้นเกินจำนวนพื้นที่รองรับจึงได้เร่งพิจารณาการพักโทษในรูปแบบพิเศษ เช่น การติดกำไล EM

.

เนื่องจากการรักษาผู้ต้องขัง 10,000 คนโดยใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ จะใช้งบประมาณอยู่ที่ 5,000 บาทต่อ 1 ราย รวมทั้งหมดจะเป็น 50 ล้านบาท แต่หากให้ผู้ต้องขังจำนวน 300,000 ราย ฉีดวัคซีนโควิด-19 จะตกอยู่ที่คนละ 1,000 บาท จะใช้งบประมาณอยู่ที่ 300 ล้านบาท เพื่อสกัดการระบาดในเรือนจำทั้งหมด โดยจะเร่งประสานไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข เพื่อขอให้ดำเนินการ

.

ทางด้าน นายอายุตม์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ต้องขัง 15 เรือนจำติดเชื้อโควิด-19 โดยได้มี 8 เรือนจำใน กทม.และปริมณฑลที่ต้องเฝ้าระวังพิเศษ ส่วนเจ้าหน้าที่ติดเชื้อโควิดจากจำนวน 33 ราย เหลือที่ยังรักษาอยู่ทั้งหมด 17 ราย