ทีดีอาร์ไอแนะรัฐดึงต่างชาติเข้าลงทุนอสังหาฯในไทย

ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ กล่าวถึงปริมาณการซื้อ – ขาย อสังหาริมทรัพย์ไทยว่า ในปี 2563 คาดการณ์ว่าปริมาณการซื้อขายที่อยู่อาศัยในปี 2563 จะอยู่ที่ประมาณ 334,530 ยูนิต ลดลงจากปีก่อนที่ 392,516 ยูนิต โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อปริมาณการซื้อในปีนี้ คือปัญหาเรื่องโควิด 19 , มาตรการ LTV , ประชากรมีศักยภาพลดลงในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ , อุปทานของบ้านมีมากขึ้น และหนี้ครัวเรือนที่พุ่งขึ้นไปถึง 86 %ต่อจีดีพี จากปีก่อน ที่ 79% ต่อจีดีพี โดยเฉพาะปัญหาเรื่องโควิดคาดว่าจะทำให้กำลังซื้ออสังหาฯตั้งแต่ปีนี้ จนถึง 2565 หายไป 9 แสนล้านบาท
.
ดังนั้นจึงอยากให้ภาครัฐจึงควรสนับสนุนกำลังซื้อจากต่างชาติเข้ามาทดแทนในสัดส่วนที่เหมาะสม และต้องไม่กระทบต่อกำลังซื้อในประเทศ เช่น จำกัดโควตาต่อปี และสนับสนุนมาตรการจูงใจทางอ้อม เช่น ขยาย VISA แม้ปัญหาเรื่องกำลังซื้อของคนไทยจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงใน 4 – 5 ปีหลังจากนี้ก็ตาม ส่วนในปีหน้าคาดว่าปริมาณการซื้อขายที่อยู่อาศัยจะอยู่ที่ 403,138 ยูนิต
.
ด้านนางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยของ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ระบุว่า เชื่อว่าสถานการณ์อสังหาฯของไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่แนวโน้มในปี 2564 ยังคงมีการชะลอตัวต่อเนื่องจากปีนี้ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในด้านการลดราคา รวมไปถึงการออกโปรโมชั่นแรงๆ เพื่อจูงใจผู้ซื้อ ส่วนโครงการเปิดใหม่คาดว่ามีจำนวนใกล้เคียงกับ 2563
.
แต่ในปี 2564 ก็ถือเป็นปีที่จะปรับความสมดุลทั้งด้านราคาและปริมาณที่อยู่อาศัย ซึ่งในส่วนของราคานั้นเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวบ้างแล้ว แต่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นมากในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 ดังนั้นผู้ซื้อยังมีโอกาสจนถึงกลางปีหน้า
.
ส่วนราคาที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบปี 2563 คือ แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งมีราคาเพิ่มขึ้นถึง 63% จากปีก่อน รองลงมาคือ แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน บริเวณศูนย์การค้าไอคอมสยามราคาเพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน
.
แต่หากโฟกัสไปที่คอนโดมิเนียม พื้นที่ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดคือ แขวงบางไผ่ เขตบางแค เพิ่มขึ้น 42% จากปีก่อน รองลงมาคือแขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน
.
ด้านพื้นที่ราคาบ้านเดี่ยวเติบโตมากที่สุดคือ แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน รองลงคือแขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน และพื้นที่ราคาทาวน์เฮ้าส์เติบโตมากที่สุดคือ แขวงคู้ฝั่งเหนือ เขตหนองจอกเพิ่มขึ้น 41 % จากปีก่อน รองลงมาคือ แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อน