ทีมแพทย์ยันหญิงไทยรายที่ 2 ไม่มีเชื้อโควิดแล้ว ไม่ต้องปิดพื้นที่กทม.-จ.เลย

582
0
Share:

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. พร้อมด้วยรศ.นพ. สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผอ.รพ.รามาธิบดี และผู้แทนคณะแพทย์รามาธิบดี แถลงความคืบหน้าหญิงกรณีหญิงไทยรายที่ 2 ตรวจสุขภาพพบสารพันธุกรรม ของเชื้อโควิด 19 ขณะเตรียมตัวเดินทางไปทำงานในต่างประเทศว่า ไทม์ไลน์ของผู้หญิงไทยวัย 35 ปี ที่กลับมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และพบเชื้อบวกอ่อนๆนั้น
.
– 24 มิ.ย. – 9 ก.ค. เดินทางจากดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และเข้ากักตัวที่จ.ชลบุรี ซึ่งในระหว่างนี้มีการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในวันที่ 29 มิ.ย.และ 5 ก.ค.ไม่พบเชื้อโควิด
.
– 9 ก.ค. เดินทางกลับจังหวัดเลย โดยเพื่อนขับรถมารับผู้สัมผัสใกล้ชิด 5 ราย (พ่อ แม่ เพื่อน)
.
– ช่วงเดือนก.ค. มีผู้สัมผัสใกล้ชิด 6 ราย พาเพื่อนไปรพ.ปากชมและเข้าเยี่ยมเพื่อนคลอดลูก
.
– 12 – 13 ส.ค. รับประทานอาหารที่ร้านแต่จำชื่อไม่ได้ และมีเพื่อนไปด้วยกันรวมทั้งหมด 3 คน
.
– 16 ส.ค. มีผู้สัมผัสใกล้ชิด 4 ราย (เพื่อน 2 ราย แม่บ้าน 2 ราย) ผู้พักอาศัยในโรงแรม 104 ราย เดินทางมากรุงเทพโดยมีพ่อแม่ขับรถมาส่งกับเพื่อนอีก 2 คน ที่โรงแรมบัดดี้เพลส
.
– 18 ส.ค. เดินทางไปรพ.รามาธิบดี โดยรถแท็กซี่ กับเพื่อนอีก 2 คน และมีผู้สัมผัสใกล้ชิด6 ราย (คนขับแท็กซี่ ,เจ้าหน้าที่รพ.) และพบว่าผลตรวจมีเชื้อบวกอ่อน
.
– 19 – 20 ส.ค.เข้าตรวจครั้งที่ 2 และ 3 ผลเป็นลบ แต่เข้ารับการรักษาที่ รพ.รามาฯ แต่เมื่อตรวจเลือดดูภูมิคุ้มกันพบว่ามีผลบวกขึ้นมา แสดงว่าก่อนหน้านี้อาจมีการติดเชื้อ จึงต้องเข้าสู่ระบบการสอบสวน
.
โดยกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมด 24 รายขณะนี้ได้ดำเนินการตรวจสอบหาเชื้อโควิด 19 แล้ว และณ ตอนนี้คนไข้ไม่ได้ติดเชื้ออะไรแล้ว “มีผลเป็นลบ” แต่ยังต้องให้อยู่ในรพ.ไปก่อน เพราะคำว่าบวกอ่อนๆ จากเศษซากของเชื้อ ทำให้ต้องไล่ย้อนหลังไปอีก 3 เดือนเพื่อสอบสวนโรค สถานที่เปิดเผยขึ้นมา ทุกอย่างดำเนินการได้ปกติ ไม่ต้องปิด เพราะความเสี่ยงไม่ได้เกิดขึ้นกับสถานที่ใดทั้งสิ้น ทางระบบสอบสวนโรคได้เริ่มทำงานแล้ว และบางส่วนถูกตรวจสอบแล้ว ทั้งในพื้นที่จ.เลย และกทม. ประชาชนจึงไม่ต้องกังวล และผู้ป่วยได้ให้ข้อมูลว่าสวมหน้ากากอนามัยตลอด ทำให้ยิ่งมั่นใจได้มากขึ้น แต่หากประชาชนในพื้นที่ไม่มั่นใจก็สามารถเข้ารับการตรวจได้