ทุบหุ้นลึก! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดิ่งกว่า 300 จุด น้ำมันดิบโลกปิดพุ่งเหนือ 94 ดอลลาร์

281
0
Share:
ทุบหุ้นลึก! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดดิ่งกว่า 300 จุด น้ำมันดิบโลกปิดพุ่งเหนือ 94 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 29,296 จุด -630 จุด หรือ -2.11% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,639 จุด -104 จุด หรือ -2.80% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,652 จุด -420 จุด หรือ -3.80% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ร่วงหลุดระดับ 30,000 ครั้งใหม่ถึง 2 วันติดกันในรอบไม่ถึง 1 สัปดาห์ ด้านดัชนีหุ้นนาสแดคปิดหลุดระดับ 11,000 จุดครั้งใหม่ในรอบไม่ถึง 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ ส่งผลให้ใน 2 วันทำการติดต่อกัน ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งดำดิ่ง -976 จุด, -142 จุด และ -495 จุด ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง สามารถปิดขึ้นในแดนบวกได้ +2.0%, +1.5% และ +0.7% ตามลำดับ

สาเหตุจากนักลงทุนกังวลกับแรงกดดันปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขการจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตรเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 263,000 คน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้เล็กน้อยที่ 275,000 คน และเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นน้อยสุดในรอบ 17 เดือนผ่านมา อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานกลับลดต่ำลงมาอยู่ที่ระดับ 3.5% จากเดือนสิงหาคมที่เพิ่มขึ้นไปที่ระดับ 3.7% สะท้อนถึงภาวะแรงงานยังขยายตัวแข็งแกร่ง ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในวันที่ 1-2 พฤศจิกายนนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 92.64 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +4.19 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +4.7% ทำสถิติราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 เดือน 1 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 98.92 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +3.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.7 ทำสถิติราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 เดือน 1 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้นสูงครั้งใหม่ กลุ่มโอเปกพลัสลดกำลังการผลิตกว่าวันละ 2 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ กลุ่มจี 7 เตรียมประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรพลังงานกับรัสเซีย 3 ระยะ เริ่มแรกน้ำมันดิบ น้ำมันดีเซล และนาพทา

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,720.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -17.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.00% ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐย้อนกลับแข็งค่าขึ้น จากยอดการจ้างงานในภาคเอกชนสูงกว่าที่ประเมินไว้ และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะ 2 ปี และ 10 ปี ย้อนกลับสูงขึ้นหลังจากลงไปต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ เมื่อวานก่อนหน้านี้ ประกอบกับราคาทองคำมีราคาพุ่งสูงมากเกือบ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในช่วง 2 วันติดต่อกัน