ธนาคารกลางสหรัฐอาจขึ้นดอกเบี้ยถึง 1% ในสิ้นเดือนนี้ แรงสุดในรอบกว่า 30 ปี

379
0
Share:

นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ล้วนมีมุมมองไปในทิศทางเดียวกันกับโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นพุ่งแรงขึ้นถึง 1% ในการประชุมวันที่ 26-27 กรกฎาคมนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกา รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนทะยานถึง 9.1% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 41 ปีเมื่อคืนผ่านมา

หากเฟดตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 1% จะเป็นสถิติการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นที่มากที่สุดนับตั้งแต่เฟดเริ่มใช้อัตราดอกเบี้ยข้ามคืนมาใช้บริหารดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในยุคทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา หรือในรอบกว่า 32 ปี

นักวิเคราะห์จากซีเอ็มอี กรุ๊ป ในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ขณะนี้โอกาสเพิ่มตาก 11% มาเป็น 80% ที่จะได้เห็นคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด ปรับขึ้นดอกเบี้ย 1% ในการประชุมช่วง 2 วันติดต่อกันในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนนี้

นายราฟาเอล บอสติก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟดสาขาแอตแลนต้า ตอบคำถามที่ว่าความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นสูงถึง 1% นั้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ในการตัดสินใจของเฟด

ขณะที่ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา 2 สาขา ได้แก่ แมรี่ เดลี่ ผู้ว่าการเฟดสาขาซาน ฟรานซิสโก และลอเรตต้า เมสเตอร์ ผู้ว่าการเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ล้วนมีมุมมองว่าการประชุมของเฟดในสิ้นเดือนนี้ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% ซึ่งเป็นผลจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าภาวะเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามุมมองดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่เงินเฟ้อเดือนมิถุนายนจะพุ่งสูงกว่าที่คาดไว้ไปถึง 9.1%

ด้านทีมนักเศรษฐศาสตร์โนมูระ ซิเคียวริตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ในการประชุมของเฟดในวันที่ 26-27 กรกฎาคมนี้ เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 1% จากแรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนที่พุ่งสูงถึง
9.1% มากที่สุดในรอบ 41 ปี