นักลงทุนมองบิทคอยน์อาจเหลือแตะ 10,000 ดอลลาร์ ต่ำสุดใน 3 ปี

299
0
Share:

ผลสำรวจเอ็มแอลไอวี พัลซ์ MLIV Pulse ซึ่งทำการสำรวจนักลงทุนทั้งประเภทสถาบันการเงิน และรายย่อยรวมทั้งหมด 950 คนในช่วงวันที่ 5-8 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา พบว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ หรือราว 60% มองว่าเงินบิทคอยน์มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีราคาตกต่ำมาอยู่ที่ระดับ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 360,000 มากกว่าที่จะมีราคาขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,080,000 บาท ในทางตรงกันข้าม นักลงทุนราว 40% มองว่าบิทคอยน์จะขึ้นไปถึงระดับ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,080,000 บาท อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุระยะเวลาที่ชัดเจนของการเคลื่อนไหวค่าเงินบิทคอยน์ดังกล่าว

หากเงินบิทคอยน์มีราคาร่วงลงมาแตะ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะทำสถิติค่าเงินบิทคอยน์ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2020 หรือในรอบ 1 ปี 10 เดือน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Coingecko เปิดเผยว่า ค่าเงินบิทคอยน์มีสถิติหลุด 10,000 ดอลลาร์สหรัฐครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ปี 2019 ซึ่งในวันนั้นค่าเงินบิทคอยน์ปิดที่ระดับ 10,846.13 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินบิทคอยน์เมื่อวันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม 2565 ผ่านมา ปิดที่ระดับ 21,850 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 786,600 บาท ทำให้ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ค่าเงินบิทคอยน์พุ่งขึ้น 12% ทำสถิติดีที่สุดในรอบต้นปีนี้

ผลสำรวจดังกล่าว พบว่า มุมมองในภาพรวมที่มีต่อการลงทุนเงินคริปโทเคอร์เรนซีของนักลงทุนประเภทสถาบันมีมุมมองด้านบวกมากกว่านักลงทุนรายย่อย โดย 28% มีความมั่นใจว่าเงินคริปโทเคอร์เรนซีเป็นอนาคตแห่งการเงิน ในขณะที่มี 20% มองว่าเงินคริปโทเคอร์เรนซีไม่มีค่าอะไรเลย ในรายละเอียด ของแต่ละคำถาม เช่น เงินคริปโทเคอร์เรนซีเป็นเงินแห่งอนาคต พบว่ามีนักลงทุนสถาบัน 26% ส่วนรายย่อยมีเพียง 23% คำถามที่ว่า มีความสงสัยในการลงทุนเงินคริปโทเคอร์เรนซี แต่ยังไงก็สนใจเกี่ยวข้อง พบว่ามีนักลงทุนสถาบันมองมุมบวก 23% แต่รายย่อยมองเพียง 22% คำถามที่ว่า เงินคริปโทเคอร์เรนซีมีค่าไม่ต่างจากขยะ พบว่า มีนักลงทุนรายย่อยเห็นด้วยมากถึง 24% ซึ่งมากกว่านักลงทุนสถาบันที่มีเพียง 18%

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปลายปี 2564 มาถึงปัจจุบัน มูลค่าตลาดเงินบิทคอยน์เสียหายไปมากถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 72 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 ที่มีสถิติสูงสุดกว่า 69,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,484,000 บาทนั้น ค่าเงินบิทคอยน์ดำดิ่งหายไปมากถึง 2 ใน 3 หรือกว่า 67%