นักวิชาการแนะลดงบทหารมากระตุ้นเศรษฐกิจ

766
0
Share:

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป สถาบันเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ประเมินว่า มาตรการชิมช้อปใช้เฟส 1 และที่กำลังจะดำเนินการในเฟส 2 รวมถึงมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลขณะนี้ไม่เพียงพอต่อการรับมือการชะลอตัวและถดถอยของเศรษฐกิจโลก
.
ที่สำคัญงบประมาณปี 2563 ก็ยังไม่ผ่านสภา ดังนั้นควรต้องเพิ่มการขาดดุลงบประมาณเพื่อการลงทุนและสร้างงาน ปรับโครงสร้างภาคการผลิต ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน จัดสรรงบประมาณและทรัพยากรใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และตอบโจทย์อนาคตสังคมไทย ควรทำงบประมาณขาดดุลเพิ่มเติมจากยอดขาดดุลอีกอย่างน้อย 30-50%
.
นอกจากนี้รัฐบาลควรปรับลดงบประมาณจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ของทหาร ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการลงทุน โดยโยกงบประมาณจัดซื้ออาวุธมาใช้ในการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างการจ้างงานใหม่ๆ และดูแลความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจของประชาชนแทน
.
ด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงผลการดำเนินโครงการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชิมช้อปใช้ ว่า เป็นโครงการที่ไม่ได้ส่งผลทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ยังมีภาพทางสังคมเอื้ออาทรแฝงอยู่ด้วย แม้ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้วสำหรับการขับเคลื่อนมาตรการชิมช้อปใช้ แต่ผลตอบรับจากประชาชนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
.
โดยพบว่ามีผู้ใช้จ่ายผ่านมาตรการนี้แล้วประมาณ 1.3 ล้านคน ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 1 พันล้านบาท และมีจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 1.7 แสนราย
.
นอกจากนี้จากการที่ได้ลงพื้นที่จังหวัดระยอง พบว่าผู้ประกอบการและประชาชนชื่นชมกับมาตรการนี้ และขอให้มีการขยายผลเพิ่มเติมซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่า จะมีระยะที่สอง และจะปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ อำนวยความสะดวกให้ประชาชนมากยิ่งขึ้น