นายกฯร่ายยาวแผนงบรายจ่ายปี 2563 หวังดัน GDP ปีหน้า

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้แถลงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ได้จัดทำขึ้นภายใต้ประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยหรือ GDP ที่ 3-4% ซึ่งเติบโตดีขึ้นจากปี 2562 พร้อมคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2563 อยู่ในช่วง 0.8-1.8% แต่เศรษฐกิจไทยในปี 2563 ยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลก
.
นอกจากนี้ได้กำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ไว้ที่ 3.2 ล้านล้านบาท และมีการประมาณการรายได้ไว้ที่ 2.73 ล้านล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 469,000 ล้านบาท
.
โดยในส่วนของรายจ่ายแบ่งเป็น รายจ่ายประจำ 74.8 % // รายจ่ายลงทุน 20.5% // รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 1.9% และรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 2.8% ซึ่งอยู่ภายในกรอบวินัยการเงินการคลัง ส่วนยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จะแบ่งเป็น 6 ยุทธศาสตร์
.
นำโดย 1. ด้านความมั่นคง ซึ่งรัฐบาลได้จัดงบประมาณรายจ่ายไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 428,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13.4% ของวงเงินงบประมาณ โดยมุ่งเน้นการปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความมั่นคงความปลอดภัย และความสงบสุขของประเทศ แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และปราบปรามและบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
.
2.ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน รัฐบาลได้จัดงบประมาณรายจ่ายไว้ประมาณ 380,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.9% ของวงเงินงบประมาณ เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจมีการขยายตัว พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว รวมถึงการพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
.
3.ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ได้จัดงบประมาณรายจ่ายไว้ประมาณ 571,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17.8% ของวงเงินงบประมาณ เพื่อปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพคนไทยทุกช่วงวัย และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
.
4.ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ได้งบประมาณรายจ่าย ไว้ประมาณ 765,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 23.9% ของวงเงินงบประมาณ เพื่อสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ ทางเศรษฐกิจและสังคม และเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่นในการจัดการตนเอง รวมถึงเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสังคมสูงวัย
.
5.ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้จัดงบประมาณรายจ่ายไว้กว่า 118,700 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.7% ของวงเงินงบประมาณ เพื่อการพัฒนาทรัพยากรและการรักษาสิ่งแวดล้อม และการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และให้ความสำคัญกับการจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
.
6.ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้ประมาณ 504,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15.8% ของวงเงินงบประมาณ เพื่อพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่ให้มีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส รับผิดชอบและตรวจสอบได้