นายกฯ ลั่นเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 เลวร้ายกว่าที่คิด ตอกย้ำแจกเงินดิจิทัล 10,000 จำเป็น

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรณีที่สภาพัฒน์แถลงวันนี้เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยขยายตัวเพียง 1.5% ลดลงจากไตรมาส 2 ที่โตเหลือ 1.8% นั้นผมเป็นห่วงอย่างมาก ผมสอบถามเลขาธิการสภาพัฒน์ว่าเป็นอย่างไร ตัวเลขจีดีพีออกมา 1.5% ในไตรมาส 3 เลขาธิการสภาพัฒน์ก็บอกว่าก็ตกใจเพราะนึกว่าความจริงแล้ว จะเห็นเลข 2% นายเศรษฐากล่าวว่า ปัจจัยทุกอย่างก็เลวร้ายกว่าที่คิดไว้เยอะ นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า จุดยืนของผมนั้นชัดเจน วิกฤตและจำเป็นครับ เรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท พูดชัดเจนแล้วเรื่องแหล่งเงินกู้ก็ชัดเจนแล้วว่าจะออกเป็นพระราชบัญญัติ

ในช่วงเช้าวันนี้ 20 พฤศจิกายน 2566 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 3 ปี 2566 และแนวโน้มปี 2566-2567 พบว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย หรือตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ เรียกว่า จีดีพีในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ขยายตัว 1.5% ซึ่งลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ที่ขยายตัวอยู่ที่ 1.8% ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค หรือในทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์แล้ว

สาเหตุจากภาคการส่งออกไทยหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน มีตัวเลขส่งออก -3.1% ส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมไทยชะลอตัวด้วยการติดลบมากถึง -4% ด้านการใช้จ่ายรัฐบาลชะลอตัวถึง -4.9% สำหรับสินค้าและบริการในระบบตลาดตกต่ำอย่างมากถึง -38.6% อย่างไรก็ตาม มีเพียงตัวเลขรายจ่ายค่าซื้อสินค้าและบริการขยายตัวเบาบางเพียง 0.5%

ผลจากอัตส่งผลราการยายตัวเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 เพียง 1.5% ทำให้ภาวะเศรษฐกิจไทยใน 3 ไตรมาสแรก หรือ 9 เดือนแรกของปี 2566 นี้ ขยายตัว อย่างเบาบางอยู่ที่ 1.9%

เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยต่อไปว่า ได้ปรับลดตัวเลขประมาณการใหม่จีดีพีในปี 2566 ใหม่ โดยปรับลดลงเหลือเพียง 2.5% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวในกรอบ 2.5%-3.0% การปรับลดตัวเลขจีดีพีใหม่ในครั้งนี้ ซึ่งตัวเลขระดับล่างสุดของการประมาณการที่ผ่านมา