บริษัทในตลาดหุ้นไทยทรุดรวมเกือบ 1 ล้านล้านบาทใน 1 สัปดาห์เดียว ดัชนีรูดร่วงกว่า 10%

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานการเปลี่ยนแปลงของดัชนีหุ้นสำคัญในแง่ร้อยละท่ามกลางสภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวน พบว่า นับตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงเมื่อวานนี้ 29 มิถุนายน 2566 ดัชนีหุ้น SET ดำดิ่งถึง -11.33% ดัชนีหุ้น MAI ดิ่งเหวหนัก -22.53% ขณะที่นับตั้งแต่ 6 เดือนถึงเมื่อวานนี้ 29 มิถุนายน 2566 ดัชนีหุ้น SET ดำดิ่งถึง -10.93% ดัชนีหุ้น MAI ดิ่งเหวหนัก -22.65% สอดคล้องกับนับตั้งแต่ 3 เดือนถึงเมื่อวานนี้ 29 มิถุนายน 2566 ดัชนีหุ้น SET ดำดิ่งถึง -8.13 % ดัชนีหุ้น MAI ดิ่งเหวหนัก -16.90%

สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่แล้วตั้งแต่วันที่ 19 มาถึงเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2566 พบว่า ดัชนีหุ้น SET ทรุดหนักถึง 8 วันทำการติดต่อกัน ส่งผลให้ดัชนีหุ้น SET ตกต่ำถึง -91 จุด แบะปิดทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปีกว่า ปัจจัยสำคัญในช่วงระยะเวลานี้มาจากวิกฤตหุ้นบริษัท STARK ที่มีน้ำหนักมากที่สุดเมื่อเทียบกับปัจจัยการเมืองไทย

ที่สำคัญ นับตั้งแต่สิ้นสุดวันเลือกตั้งทั่วไป มาถึงเมื่อวานนี้ หรือตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม ถึงวันที่ 29 มิถุนายน 2566 พบว่าดัชนีหุ้น SET ทรุดรวมสุทธิ -74.45 จุด กดดัชนีหุ้น SET จากระดับเดิมที่ 1,541.38 จุด มาเหลือที่ 1,466.93 จุด ปัจจัยสำคัญในช่วงระยะเวลานี้มาจากปัจจัยการเมืองไทยที่ส่อแววไม่มีความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ควบคู่กับวิกฤตหุ้นบริษัท STARK เมื่อเทียบกับนอกจากนี้ ค่าดัชนีหุ้นดังกล่าวยังกลายเป็นระดับจุดต่ำสุดของปี 2566 ด้วย

มูลค่าบริษัทจดทะเบียน หรือ Market Capital ในตลาดหุ้นไทยสูญหายไปกว่า 965,215 ล้านบาท เมื่อสิ้นสุดวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา มูลค่าตลาดหลักทรัพย์ไทยเหลืออยู่ที่ 18,425,065 ล้านบาทจากเดิมเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนมีมูลค่าตลาดหลักทรัพย์ไทยอยู่ที่ 19,390,280 ล้านบาท สาเหตุจากปัจจัยลบโถมใส่ตลาดหุ้น ได้แก่ สถานการณ์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ไม่มีความชัดเจน วิกฤตบริษัท STARK ที่ส่งผลกระทบฉุดราคาหุ้นแทบจะเหลือศูนย์บาท นักลงทุนต่างชาติถอยลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง