บิทคอยน์ฟื้นเหนือ 22,000 ดอลล์ เป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์

296
0
Share:

ตลาดซื้อขายเงินคริปโตเคอร์เรนซี เอเชีย เช้าวันนี้ 8 กรกฎาคม 2565 เมื่อเวลา 9.25 น. (เวลาไทย) ค่าเงินบิทคอยน์เคลื่อนไหวที่ระดับ 22,095.87 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 817,547 บาท เพิ่มขึ้น 1,748.12 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 64,680 บาท หรือ +8.61% นับเป็นเป็นครั้งแรกในรอบ 1 สัปดาห์ที่เงินบิทคอยน์สามารถปิด และเคลื่อนไหวเหนือ 21,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ค่าเงินบิทคอยน์เคลื่อนไหวที่ระดับ 18,866.77 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 679,204 บาท ดำดิ่ง 1,226.41 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 44,151 บาท หรือ -6.1% ส่งผลทำสถิติเงินบิทคอยน์ดำดิ่งรุนแรงถึง 60.9% เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติสูงสุดเงินบิทคอยน์ในปีนี้เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ระดับ 48,234 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,736,424 บาท หรือส่งผลเฉลี่ยตกต่ำถึงเดือนละ 10% ในช่วง 3 เดือนผ่านมา

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ค่าเงินบิทคอยน์มีระดับราคาต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 17,592.78 ดอลลาร์สหรัฐ/บิทคอยน์ หรือกว่า 615,747 ดอลลสหรัฐ/บิทคอยน์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเป็นสถิติต่ำสุดในรอบ 1 ปี 5 เดือนกว่า หรือตั้งแต่ธันวาคม 2563

นอกจากนี้ ค่าเงินอีเธอเลียม ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่อันดับ 2 ในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซี ปรับเพิ่มขึ้น +98.92 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3,660 บาท หรือ +8.56% มาเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,255.01 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 46,435 บาท ก่อนหน้านี้ ค่าเงินอีเธอเลียมมีราคาต่ำสุดระหว่างวันที่ 881 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 30,835 บาท ไม่เพียงทำสถิติตกต่ำมากถึง 35% ในสัปดาห์ผ่านไป แต่ยังเป็นค่าเงินอีเธอเลียมต่ำสุดในรอบ 1 ปี 4 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2021 เป็นต้นมา หรือตั้งแต่ปี 2564

สาเหตุจากบรรยากาศตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาในสัปดาห์นี้กลับมาคึกคักมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งในคืนผ่านมา สามรถปิดในแดนบวกมากกว่า 1.5% ขึ้นไป

ในช่วงที่ผ่านมานั้น ปัจจัยลบอื่นๆที่ถาโถมเข้าใส่ตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซรประกอบด้วยหลายอย่าง ได้แก่ นักลงทุนถอนการลงทุนออกจากสินทรัพย์การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมาก ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญภาวะถดถอยครั้งใหญ่ และการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่มากถึง 0.75% ในกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งมากสุดในรอบ 28 ปี ปัจจัยต่อมา คือการขาดความเชื่อมั่น หรือขาดความมั่นใจต่อการลงทุนเงินคริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลก รวมถึงการขาดความไว้วางใจในแพลตฟอร์มการซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซียักษ์ใหญ่ของโลกหลายแห่ง

นอกจากนี้ กองทุนสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซีชื่อดัง 3AC กำลังเข้าสู่ภาวะขาดเงินทุน หรือสภาพคล่อง ทำให้ถูกศาลพิจารณาสั่งให้กองทุน 3AC ทำการขายทรัพย์สินเพื่อนำรายได้ทั้งหมดมาตัดชำระหนี้

เซลเซียส เน็ตเวิร์กส์ (Celsius Networks) แพลตฟอร์มปล่อยกู้เงินคริปโทเคอร์เรนซี ประกาศระงับบริการถอน การแลกเปลี่ยน และการโอนระหว่างบัญชีทั้งหมดเป็นชั่วคราว เนื่องจากตลาดมีความผันผวนรุนแรง ค่าเงินเซลเซียสดำดิ่งจาก 7 ดอลลาร์สหรัฐมาเหลือเพียง 33 เซนต์ในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังถูกเทขายตกต่ำกว่า 50% ในสัปดาห์ผ่านไป

คอยน์เบส (Coinbase) แพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า ราคาหุ้นของคอยน์เบสตกต่ำมากถึง 11% ในวันจันทร์ผ่านมา ส่งผลให้ราคาหุ้นปิดตลาดทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่เข้าไปจดทะเบียนซื้อขายในดัชนีหุ้นนาสแดค ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนเมษายน ปี 2021

ไบแนนซ์ (Binance) แพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังระดับโลก และใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศยุติบริการถอนเงินบิทคอยน์ออกจากแพลตฟอร์มไบแนนซ์เมื่อต้นสัปดาห์นี้เป็นเวลานาน 3 ชั่วโมง โดยให้เหตุผลว่า มีปริมาณธุรกรรมจำนวนมากทำให้เกิดปัญหาธุรกรรมการลงทุนคงค้างเป็นจำนวนมาก

บริษัทสตาร์ทอัพด้านเงินคริปโทเคอร์เรนซี ล้วนประกาศแผนตัดลดต้นทุนดำเนินกิจการอย่างรุนแรง ท่ามกลางตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีเผชิญความตกต่ำของสกุลเงินดิจิทัลทั่วตลาด บล็อคไฟ ประกาศปลดพนักงาน 20% จากจำนวนทั้งหมด ก่อนหน้านี้ เมื่อสิ้นปี 2563 มีจำนวนพนักงาน 150 คน ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น มากกว่า 850 คน

คริปโต ดอทคอม ประกาศปลดพนักงาน 260 คนในสัปดาห์ที่ผ่านไป หลังจากเมื่อ 7 เดือนที่ผ่านมา บริษัทดังกล่าวได้รับสิทธิการใช้สเตเดี้ยมบาสเกตบอลของทีมชื่อดังในลีกเอ็นบีเอ ลอส แองเจลิส เลคเกอร์ ด้วยมูลค่าสูงถึง 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 24,500 ล้านบาท

เจมินี (Gemini) ประกาศปลดพนักงาน 10% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ก่อนถึงวันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายนตามเวลาในสหรัฐอเมริกานั้น มูลค่าตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลกสูญหายรุนแรงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 70 ล้านล้านบาท ขณะที่ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมานั้น นักลงทุนเงินคริปโตเคอร์เรนซีต้องถูกบังคับขาย เพื่อชำระหนี้สูงถึง 435,500,000 บาท หรือราว 15,243 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินบิทคอยน์ 202 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 7,070 ล้านบาท และเงินอีเธอเลียม 144.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5,058 ล้านบาท