ปตท. น้ำมันและการค้าปลีกตั้งเป้างบลงทุน 5 ปี 74,600 ล้านบาท

533
0
Share:

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยภายในงานแถลงข่าวการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ว่า บริษัทตั้งงบลงทุนภายในช่วง 5 ปีข้างหน้า หรือ ปี 2564-2568 บริษัทคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 74,600 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นการลงทุนใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่
.
1) ธุรกิจน้ำมันสัดส่วน 34.6%
2) ธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ (Non-Oil) ราว 28.6%
3) ธุรกิจต่างประเทศ 21.8% และธุรกิจอื่นๆ 15%
.
ขณะที่บริษัทยังมีแผนลงทุนในธุรกิจใหม่ๆอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีอยู่ทั้งในรูปแแบบการเป็นพันธมิตร,การตั้งบริษัทร่วมทุน หรือการซื้อกิจการ
.
โดยบริษัทตั้งเป้าปี 68 จะขยายสถานีบริการน้ำมันเป็น 3,100 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 1,968 สาขา และร้านกาแฟ Cafe Amazon เพิ่มเป็น 5,800 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่ 3,168 สาขา รวมถึงจะสร้างโรงงานเบเกอรี่,โรงงานผงผสมเครื่องดื่ม และศูนย์กระจายสินค้าอัตโนมัติขึ้นมาอีกด้วย
.
นอกจากนี้บริษัทมีแผนขยายการให้บริการแท่นชาร์จสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ในเส้นทางหลักทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่เริ่มเปิดทดลองในสถานีบริการน้ำมันแล้วจำนวน 25 แห่ง หลังมองว่าเทรนด์รถยนต์ EV จะช่วยต่อยอดธุรกิจและเป็นโอกาสอีกหนึ่งธุรกิจที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในสถานีบริการน้ำมันของ OR ในอนาคต และสนใจร่วมลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ EV ทั้งธุรกิจแบตเตอรี่,บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจอื่นๆอย่างต่อเนื่อง
.
ขณะที่การต่อสัญญากับร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ “7-Eleven” ในสถานีบริการน้ำมันของ OR นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพูดคุยข้อตกลงกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL หลังจากสัญญารอบที่ 2 เหลือระยะเวลาอีกประมาณ 2 ปี จากอายุสัญญาทั้งหมดระยะเวลา 10 ปี โดยมองว่าน่าจะบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ เพราะบริษัทและร้าน 7-Eleven เป็นพันธมิตรที่ส่งเสริมกันและกันได้เป็นอย่างดี และถือว่าเป็นคู่พันธมิตรที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
.
ส่วนกรณีที่มีข่าวเรื่องความโปร่งใสในการปรับโครงสร้างและการโอนสินทรัพย์นั้น บริษัทขอให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่าการปรับโครงสร้างของกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และการโอนทรัพย์สินเข้ามายัง OR ได้ดำเนินการอย่างโปร่งใส โดยขั้นตอนการ IPO มีการเตรียมการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 59 และสามารถแยกกิจการจาก ปตท.แล้วเสร็จภายในปี 61
.
ยืนยันว่าการแยกธุรกิจ OR ออกมาจากปตท.ทำธุรกรรมอย่างรอบคอบและไม่โอนทรัพย์สินที่เป็นส่วนของสมบัติแผ่นดินเข้ามายัง OR รวมถึงทรัพย์สินที่โอนเข้ามามีการประเมินตามมูลค่ายุติธรรมของราคาตลาด
.
นอกจากนี้ปตท.ยังได้นำงินที่ได้จากการโอนทรัพย์สินไปจ่ายภาษีให้กับกระทรวงการคลังกว่า 16,000 ล้านบาท และงบการเงินหลังการแยกธุรกิจก็ได้รับการตรวจสอบรับรองจากคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน แบบไม่มีเงื่อนไข
.
โดยคาดว่าจะสามารถนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “OR” ได้ภายในต้นเดือนก.พ.นี้