ปิดร่วงแดง! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดลงกว่า 100 จุด น้ำมันดิบโลกปิดทรงตัวเหนือ 79 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,517 จุด -112 จุด หรือ -0.34% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,892 จุด -2 จุด หรือ -0.08% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,635 จุด +66 จุด หรือ +0.63% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +1.5%, +1.5% และ +1% ตามลำดับ

สาเหตุจากหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ถูกเทขาย สวนทางหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับสูงขึ้น ท่ามกลางมุมมองของนักลงทุนที่ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อผ่อนคลายลงต่อเนื่อง ซึ่งจะลดแรงกดดันต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น โดยเฉพาะการประชุมครั้งแรกในปีนี้จะมีขึ้นในวันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.5% ขณะที่ ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอยู่ที่ระหว่าง 4.25%-4.50% ซึ่งสูงสุดในรอบ 14 ปี

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 74.63 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.86 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.2% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 79.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.08 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.4% ในปีผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

เมื่อวันพุธในสัปดาห์ผ่านไปที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ทำสถิติดำดิ่งรุนแรงถึง -9.4% ใน 2 วันทำการติดต่อกันของการเริ่มซื้อขายเดือนมกราคม ซึ่งเลวร้ายที่สุดในรอบ 31 ปี หรือนับตั้งแต่มกราคมปี 1991 เป็นต้นมา

ในสัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง มีราคาลดลงกว่า -8% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ดำดิ่งหนักในสัปดาห์แรกของปีในรอบ 6 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา

สาเหตุจากการเปิดประเทศของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะกลับมามีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ท่ามกลางการจับตาประเมินความรุนแรงของการระบาดของโรคโควิด-19 ของจีนที่จะมีต่อต่างประเทศหรือไม่ นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อย

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,877.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +8.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +0.4% ส่งผลเป็นราคาทองคำปิดสูงสุดในรอบ 7 เดือน หรือนับตั้งแต่ปี 13 มิถุนายน 2565

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งขึ้น +2.1% ทำสถิติทองคำรายสัปดาห์ดีที่สุดในรอบ 1 เดือน หรือตั้งแต่ 2 ธันวาคม 2565

ในปีผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่ง 1% ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 2 ปี 10 ปี แบะ 30 ปี ร่วงลงต่อเนื่อง ทำสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ หลังจากตัวเลขอัตราค่าจ้างแรงงานสหรัฐอเมริกาในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นต่ำสุดในรอบ 1 ปีกว่า นอกจากนี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นเหนือเป้าหมายเล็กน้อย รวมถึงดัชนีการจัดซื้อภาคบริการเดือนเดียวกันลดต่ำลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ทั้งหมด ทำให้นักลงทุนกลับมามั่นใจว่าแรงกดดันปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจลดลงมาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาชะลอตัวลงอย่างชัดเจนโดยเฉพาะอัตราค่าจ้างลดต่ำลงทำให้แนวโน้มเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาอาจชะลอตัวต่อเนื่อง