ปิดสวนทาง! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดลงกว่า 30 จุด น้ำมันดิบโลกปิดลงเหลือกว่า 84 ดอลลาร์

221
0
Share:
ปิดสวนทาง! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดลงกว่า 30 จุด น้ำมันดิบโลกปิดลงเหลือกว่า 84 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,463 จุด -36 จุด หรือ -0.11% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,399 จุด +30 จุด หรือ +0.69% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,497 จุด +206 จุด หรือ +1.56% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นนาสแดคทำสถิติปิดขึ้นมากสุดใน 1 วันทำการที่ดีที่สุดในรอบเดือนนี้

นอกจากนี้ ยังส่งผลให้หยุดสถิติ 2 ดัชนีหุ้นสำคัญ ได้แก่ เอสแอนด์พี 500 และนาสแดค ปิดร่วงลงถึง 4 วันทำการติดต่อกัน โดยดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดค ทำสถิติปิดดำดิ่งถึง 4 วันติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบ 5 เดือน หรือตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม และในรอบ 6 เดือน หรือตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ตามลำดับ

ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดร่วงลง -2.2%, -2.1% และ -2.6% ตามลำดับ โดยดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทำสถิติรายสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 4 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่มีนาคมเป็นต้นมา ส่วนดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติรายสัปดาห์ร่วงลงถึง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 5 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่กุมภาพันธ์ผ่านมา และดัชนีหุ้นนาสแดค ทำสถิติรายสัปดาห์ร่วงลงถึง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 8 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ธันวาคมปี 2022 ผ่านมา

สาเหตุจากถึงแม้ว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี จะย้อนกลับพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.34% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี 8 เดือนกว่า หรือนับตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2007 เป็นต้นมาก็ตาม ซึ่งเป็นผลลบต่อธุรกิจหรือหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่เนื่องจากนักลงทุนมองว่าราคาหุ้นจำนวนมากในกลุ่มดังกล่าวมีราคาลดลงต่ำมากในช่วงทั้งสัปดาห์ผ่านมา ท่ามกลางการสะท้อนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกายังคงปรับสูงขึ้นในอนาคต

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 80.72 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.65%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 84.46 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.34 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.4%

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปิดลดลง -2%

สาเหตุจากนักลงทุนผิดหวังกับแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ หลังจากเมื่อวานนี้ธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ลดดอกเบี้ยกู้ยืมลงเพียงประเภทเดียวจากที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะต้องลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืม 2 ประเภท

ตลาดคาดการณ์ยังคงคาดการณ์ว่าภาวะสต๊อกน้ำมันดิบโลกยังตึงตัวต่อเนื่องท่ามกลางรัสเซียลดการส่งออกน้ำมันดิบ สอดคล้องกับสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่าในครึ่งปีหลังนี้ ภาวะตลาดน้ำมันดิบโลกจะตึงตัว สาเหตุจากความต้องการใช้น้ำมันดิบของจีนแผ่นดินใหญ่

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,893.82 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +6.03 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.3% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,916.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +6.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.3% ส่งผลให้ราคาทองคำยังคงมีราคาปิดใกล้เคียงระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน หรือนับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมเป็นต้นมา และในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำตลาดโลกปิดร่วงลง -1.4% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันที่ราคาทองคำโลกปิดลดลง

เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี อยู่ในระดับสูงสุดในรอบกว่า 16 ปี สะท้อนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกายังคงปรับสูงขึ้นในอนาคต หลังการเปิดเผยบันทึกการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25-26 กรกฎาคมผ่านมา พบว่า เงินเฟ้อยังมีความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา อาจนำไปสู่การปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง

นักลงทุนให้น้ำหนักสัญญาณและแรงกดดันต่อการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการประชุมเดือนกันยายน โดยเฉพาะการคาดการณ์ว่ารอบการสิ้นสุดการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดจะเกิดขึ้นหรือไม่ และเร็วที่สุดเมื่อไหร่

ขณะนี้ ตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 91%