ป.ป.ช. ขีดเส้น “พิธา” ยื่นบัญชีฯ 18 มิ.ย.นี้ เช็คเข้มถือและไม่ถือหุ้นไอทีวีหรือไม่

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่าภาพรวมการยื่นแสดงรายการบัญชีรายชื่อทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส. กรณีพ้นจากตำแหน่ง โดยตามกฎหมายต้องยื่นทรัพย์สินภายใน 60 วันหลังจากพ้นตำแหน่ง ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีการยื่นทรัพย์สินแล้ว ประมาณ 384 ราย หรือกว่า 70 % ที่เหลือที่ยังไม่ได้ยื่นอีกประมาณ 100 กว่าบัญชี ซึ่งมีหลายรายที่ขอขยายเวลาการยื่น ที่ตามกฎหมายสามารถขอขยายได้ 30 วัน โดยจะครบในวันที่ 18 มิ.ย.นี้

สำหรับการยื่นบัญชีทรัพย์สินกรณีพ้นจากตำแหน่งนั้น มีหลักการตรวจสอบคือ เปรียบเทียบกับบัญชีขาเข้ารับตำแหน่งว่ามีทรัพย์สินใดที่เพิ่มมากขึ้นผิดปกติหรือไม่ หรือมีหนี้สินลดลงผิดปกติหรือไม่ เป็นประเด็นสำคัญของการตรวจสอบ และหากพบเหตุอันควรสงสัยว่าผิดปกติจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเชิงลึก หรือหากตรวจสอบพบว่าถึงขนาดมีเหตุร่ำรวยผิดปกติก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการไต่สวน

ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังไม่ได้มีการยื่นบัญชีทรัพย์สิน และทราบว่ามีหนังสือขอขยายเวลาส่งมาที่ ป.ป.ช. ซึ่งจะครบกำหนดยื่นในวันที่ 18 มิ.ย.นี้เช่นกัน ขณะเดียวกันในกฎหมายไม่มีระบุว่าให้ขยายเวลาได้อีก แต่อยู่ที่ผู้ยื่น โดยดูที่เจตนาว่ายื่นล่าช้าหลังจากพ้นเป็นเพราะอะไร เราดูเจตนาเป็นหลัก ซึ่งหลักกฎหมายที่เขียนไว้คือ หากมีเจตนาปกปิด อำพราง ซ่อนเร้น ทรัพย์สินหรือหนี้สินและตรวจพบว่ามีพฤติการณ์เช่นนั้นจึงจะสามารถวินิจฉัยชี้มูลความผิดได้

ส่วนกรณีนายพิธา ที่ถูกสังคมจับตาเป็นพิเศษ ทาง ป.ป.ช.จะต้องตรวจสอบเข้มข้นเป็นพิเศษหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เป็นเรื่องของการตรวจสอบโดยปกติ ป.ป.ช.ไม่ได้เพ่งเล็งแต่อย่างใด หลักการตรวจสอบคือ ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการเดียวกัน มีบรรทัดฐานเดียวกัน ซึ่งเป็นไปตามหลักการ

ขณะที่การยื่นทรัพย์สินเพิ่มในส่วนของหุ้นไอทีวีของนายพิธานั้น ขณะนี้ ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการตรวจสอบ สำหรับเรื่องหุ้นไอทีวีนายพิธาได้ยื่นเพิ่มเติมในภายหลังเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.เมื่อปี 62 และเมื่อมีข่าว มีข้อมูล เกี่ยวกับการข้อกล่าวหา ป.ป.ช.ก็จะต้องไปตรวจสอบว่าเป็นหุ้นไอทีวีหรือไม่ หรือหุ้นอะไร มีมูลค่าเท่าไหร่ เป็นการยื่นในฐานะผู้จัดการมรดกตามที่เขาหมายเหตุเอาไว้หรือไม่ มีคำสั่งศาลหรือไม่ ตรงนี้เราต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่นายพิธาโอนหุ้นไอทีวีล่าสุดตามที่เป็นข่าวนั้น เราก็ต้องคอยดูข้อมูลประกอบในกรณีที่นายพิธาจะยื่นทรัพย์สินกรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส. โดยไปดูประกอบกันระหว่างวันที่เข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่ง เปรียบเทียบกัน เพื่อดูว่ายังมีอยู่หรือไม่ แต่ขณะนี้นายพิธายังไมได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินกรณีพ้นตำแหน่งเข้ามา จึงยังไม่ได้ดู ซึ่งหากยื่นมาแล้วไม่มีหุ้นไอทีวี เราก็ต้องดูว่าหุ้นที่หายไปมีมูลค่าเท่าไหร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติมได้ ถ้าเห็นว่าเป็นสาระสำคัญ