ผอ.สนามบินชี้ภาพดงผู้โดยสาร Test & Go เป็นเพราะช่วงพีคของผู้โดยสาร

422
0
Share:

หลังจากเกิดกรณี นายอติชาญ เชิงชวโน หรือ อู๋ spin9 ได้ทำการรีวิวระบบ Test&Go สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยรีวิวว่า ผลงานการจัดการผู้โดยสาร Test&Go ของสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่มีใครได้ไปไหนเลย ยืนกองรวมกัน เจ้าหน้าที่โรงแรมก็ตะโกนชื่อโรงแรมตัวเองจนเสียงแหบ มีจังหวะส่ายหัวบอกว่าไม่ไหวแล้วเหมือนกัน มีผู้โดยสารโวย เจ้าหน้าที่โรงแรมก็บอกให้ไปโวยการท่าฯ

เหมือนเล่นเกมหาโลโก้โรงแรมตัวเองอะ เรียงแบบสุ่มทุกอย่าง ไม่เรียงตัวอักษร ไม่มี Directory บอก เคาน์เตอร์นึงยัดไปกี่โรงแรมก็ได้ ป้ายล้นลงมาข้างล่าง หาเจอก็ไปกระจุกรวมอีก เพราะเจ้าหน้าที่คนเดียวรับผิดชอบหลายโรงแรม ถือเป็นด่านแรกก่อนเข้ามาเจอโจทย์ยากกว่านี้ในเมือง

ต่างชาติเจองี้ เค้าคงจะอยากกลับมาอีกแหละเนอะ ประเทศนี้

ด้านนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่ได้มีผู้เผยแพร่ภาพการเดินทางของผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ  ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ในสื่อสังคมออนไลน์ ที่แสดงให้เห็นความแออัดและไม่ได้รับความสะดวก ณ จุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมบริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้านั้น

สนามบินสุวรรณภูมิขอเรียนชี้แจงว่าความแออัดดังกล่าวเกิดขึ้นในบางช่วงที่เที่ยวบินมีความหนาแน่น (Peak) ประกอบกับในช่วงนี้มีผู้เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ได้ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศโดยยกเว้นการตรวจ RT-PCR ที่ต้นทาง ทำให้จำนวนผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ณ สนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นจากประมาณวันละ 6,000 – 7,000 คน เป็นวันละ 9,000 – 10,000 คน

จึงส่งผลให้บางช่วงเวลาเกิดความคับคั่งบริเวณจุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมที่บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 05.00 – 07.00 น. และ 12.00 – 15.00 น. โดยมีจำนวนผู้โดยสารในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 1,500 – 2,000 คนต่อชั่วโมง ขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 3,000 คนต่อชั่วโมง ตามมาตรการการคัดกรองด้านสาธารณสุขในปัจจุบัน

เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวสนามบินสุวรรณภูมิได้ดำเนินการบูรณาการการให้บริการร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงประจำท่าอากาศยาน (EOC) และทุกภาคส่วน ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยปรับการบริการให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ด้วยการขยายพื้นที่จัดตั้งเคาน์เตอร์บริเวณจุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมเพิ่มเติม จากเดิม 8 เคาน์เตอร์ เป็น 17 เคาน์เตอร์

พร้อมทั้งกำหนดให้ติดป้ายแสดงชื่อโรงแรมเรียงตามตัวอักษรเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเข้ารับบริการของผู้โดยสาร นอกจากนี้สนามบินสุวรรณภูมิ ได้เพิ่มช่องทางออกจากห้องสายพานรับกระเป๋าขาเข้าจากจุดตรวจศุลกากรจากเดิม 1 ช่องทาง เป็น 2 ช่องทาง รวมถึงขอความร่วมมือโรงแรมเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่และรถรับส่งผู้โดยสารที่จะต้องนำไปตรวจ RT-PCR และรอผลที่โรงแรม ให้มีจำนวนเพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่ม   มากขึ้น พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ ทสภ. และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการให้บริการผู้โดยสารให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สนามบินสุวรรณภูมิได้ดำเนินการการให้บริการที่สอดคล้องกับแนวคิดการเดินทางวิถีใหม่ (Transport New Normal) เป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุข COVID – Free Setting อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เพื่อให้ยังสามารถอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร พร้อมกับการดูแลควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงต้องเข้มงวด ทั้งนี้ผู้โดยสารที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง