พาณิชย์ใจแข็งยันเป้าส่งออกปีนี้ 3%

701
0
Share:

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สงครามการค้ามีแนวโน้มยืดเยื้อและขยายวงกว้างขึ้นมากกว่าแค่การค้าระหว่างประเทศ ซึ่งภายใต้วิกฤตดังกล่าวก็ยังเป็นโอกาสของไทยในการส่งออกสินค้าไปทดแทนสินค้าสหรัฐ และสินค้าจีนได้ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป อาหารทะเลกระป๋อง เครื่องนุ่งห่ม หรืออุตสาหกรรมเบา นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเสริมความเข็มแข็งของเศรษฐกิจไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรม
.
ดังนั้นในนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เสนอแนะปัญหาและอุปสรรคด้านการส่งออก ส่วนเป้าการส่งออก 3% นั้นขณะนี้ยังยืนยันเป้าเดิมอยู่ โดยกระทรวงมีแผนที่การส่งออกคือ รักษาตลาดเดิม หาตลาดใหม่และฟื้นฟูตลาดเก่า
.
ด้านน.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า สถานการณ์การความไม่สงบที่ฮ่องกง โดยเฉพาะการขนส่งทางอากาศที่มีการยกเลิกเที่ยวบิน ไม่น่าจะกระทบกับการส่งออกของไทยมากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่ไทยใช้การขนส่งทางเรือเป็นหลักและใช้ช่องทางจีนผ่านไปยังฮ่องกงได้ โดยสินค้าที่ส่งไปฮ่องกงส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรแปรรูป ผลไม้ ซึ่งคาดว่าสถานการณ์น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในไม่ช้า เพราะฮ่องกงไม่ใช่เป็นเพียงศูนย์กลางทางการค้าแต่เป็นศูนย์กลางทางการเงินด้วย
.
น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการวิจัยและคำปรึกษาระหว่างประเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ปัญหาสงครามการค้ามีโอกาสที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่องกลายเป็นมหากาพย์ แม้ว่าการเลือกตั้งของสหรัฐจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวประธานาธิบดีคนใหม่หรือไม่ก็ตาม เพราะสหรัฐยังมีความเกรงกลัวต่อจีนที่จะขึ้นมาเป็นมหาอำนาจแทนสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งส้นทางที่จะขยายเส้นทางไปยังยุโรป เพื่อสร้างพันธมิตรและขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ นโยบายเมดอินไชน่า 2025 ที่จีนมีเป้าหมายที่จะเป็นประเทศผู้ส่งออกด้านเทคโนโลยี อีกทั้งการขยายอิทธิพลไปยังประเทศต่างๆ ขึ้นมาแทนสหรัฐ ที่เคยเป็นประเทศมหาอำนาจมาก่อน ดังนั้นแม้ว่าใครจะขึ้นมาเป็นรัฐบาลสหรัฐก็ยังเชื่อว่ามีความกังวลการขยายอิทธิพลของจีนซึ่งอาจจะทำให้สหรัฐออกมาตรการต่างๆ ขึ้นมาได้ในอนาคต