ฟิลิปปินส์เตรียมขึ้นภาษีรถนำเข้าจากไทย

นายเซเฟอร์ริโน เอส. โรดอลโฟ ปลัดกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม หรือ DTI ของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า DTI ได้สั่งการให้ผู้แทนฟิลิปปินส์ที่องค์การการค้าโลกหรือ WTOในกรุงเจนีวาร้องขอให้สำนักเลขาธิการระงับข้อพิพาท เข้าพบประเทศไทยเพื่อแจ้งท่าทีของฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกระบวนการนี้สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว นั่นหมายถึงว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์อาจใช้สิทธิการตอบโต้ภายในเดือนธันวาคมหรือก่อนสิ้นปีนี้
.
ด้านนายนายรามอน เอ็ม. โลเปซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม ของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ได้โน้มน้าวให้ไทยปฏิบัติตามคำตัดสินของ WTO แล้ว แต่หากประเทศไทยยังคงนิ่งเฉย ฟิลิปปินส์มีความจำเป็นต้องเคลื่อนไหวเพื่อตอบโต้
.
แต่การดำเนินการจำเป็นต้องศึกษาให้รอบคอบ โดยระบุว่าจะมีการเจรจาต่อรองและหวังว่าไทยจะชดเชยความเสียหายที่เกิดจากการส่งออกบุหรี่ หากไทยยังคงปฏิเสธ ฟิลิปปินส์คงต้องใช้มาตรการภาษีศุลกากร มากกว่าการจำกัดปริมาณนำเข้า หรือ QR เนื่องจาก QR ถูกจำกัดโดยระเบียบว่าต้องไม่มีผลกระทบในด้านรายได้ แต่สุดท้ายแล้วผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบจะมีราคาสูงขึ้น
.
ซึ่งรัฐบาลฟิลิปปินส์ปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทภาษีบุหรี่ หรือ DS 371 ที่ลงนามร่วมกับไทย ในปี พ.ศ. 2555 ต่อหน้า WTO ก่อนหน้านี้ WTO ได้ตัดสินให้ฟิลิปปินส์ ชนะคดีที่มีกับไทยทุกคดี แต่ไทยก็ยังไม่ยอมปฏิบัติตามคำตัดสินดังกล่าวจากคำตัดสินของ WTO ประเทศฟิลิปปินส์มีสิทธิ์ที่จะตอบโต้ โดยทั่วไปผู้ร้องเรียนอาจทำการระงับสิทธิประโยชน์หรือข้อผูกพันในภาคธุรกิจเดียวกัน ที่พบว่ามีการละเมิดหรือบกพร่อง
.
แต่หากผู้ร้องเรียนเห็นว่าไม่สามารถทำได้หรือไม่ได้ผลเพียงพอหากตอบโต้ในภาคอุตสาหกรรมเดียวกัน การตอบโต้ทางการค้าอาจทำในภาคอุตสาหกรรมที่ต่างกันได้ เนื่องจากฟิลิปปินส์ไม่ได้นำเข้ายาสูบจากไทยมากนัก ดังนั้นการตอบโต้ด้วยผลิตภัณฑ์เดียวกันจะไม่ยุติธรรมต่อความเสียหายทางเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการที่ประเทศไทยปฏิบัติอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายกับสินค้าส่งออกของฟิลิปปินส์
.
ด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพียงว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดที่รัฐบาลฟิลิปปินส์จะตอบโต้ขึ้นภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากประเทศไทย