มูดีส์ปรับเครดิตไทยเป็นเชิงบวก

865
0
Share:

มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสได้ปรับอันดับเครดิตประเทศไทยขึ้นจากแนวโน้มคงที่ (Stable) มาเป็นแนวโน้มเชิงบวก (Positive) และยังคงยืนยันความน่าเชื่อถือของไทยไว้ที่ระดับ BAA1
.
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ มูดี้ส์ ปรับอันดับเครดิตไทยในครั้งนี้ เพราะมองว่าสถานะการคลังของไทยมีแนวโน้มที่ดี และมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการลงทุนทางเศรษฐกิจมหภาคที่มีเสถียรภาพ การพัฒนาดังกล่าวสามารถชดเชยศักยภาพที่ขาดหายไปของการพัฒนาคุณภาพประชากรและประชากรที่สูงอายุได้
.
ซึ่งการยืนยันความน่าเชื่อถือของไทยไว้ที่ระดับ BAA1 สะท้อนได้ถึงสถานะการเงินของไทยที่แข็งแกร่ง และสามารถรับมือกับการความผันผวนของเศรษฐกิจขนาดใหญ่ได้ ซึ่งการจัดอันดับไว้ที่ BAA1 ยังคำนึงถึงข้อกำหนดทางสินเชื่อ ความเสี่ยงทางการเมืองและการท้าทายเชิงโครงสร้างระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ และ การขาดแคลนแรงงานที่มีศักยภาพ
.
นอกจากนี้มูดี้ส์ ยังได้จัดอันดับเครดิตภายในประเทศที่ไม่มีหลักประกันอยู่ที่ระดับ BAA1 อันดับเครดิตเชิงพาณิชย์ที่ P-2 ในขณะเดียวกันมูดี้ส์ได้ยืนยันอันดับเครดิตสกุลเงินท้องถิ่นที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ที่ BAA1 ขณะที่เพดานสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวอยู่ในระดับที่ A2 และเพดานพันธบัตรสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ P-1 ซึ่งตอกย้ำให้เห็นว่าไทยสามารถตั้งรับปัจจัยจากภายนอกได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง หรือผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน
.
ที่สำคัญมูดี้สยังได้คาดการณ์การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจประเทศไทย (GDP) อยู่ที่ 3% ในปีนี้และ เพิ่มขึ้นเป็น 3.5% ในปีถัดไป ซึ่งอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยอยู่ในระดับ A- และ BAA- ซึ่งมูดี้ส์ เชื่อว่าการการลงทุนที่มีประสิทธิภาพของเศรษฐกิจไทย จะสามารถช่วยพัฒนาศักยภาพเศรษฐกิจของไทยในระยะยาว
.
ทั้งนี้มูดี้ส์ ได้คาดการณ์ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลของประเทศไทยจะอยู่ที่ 3-5% ในปี 2562-2563 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและ ค่าใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น แต่ไทยยังรักษาอันดับอยู่ในระดับ A- และ BAA ซึ่งส่วนเกินภายนอกเหล่านี้ยังคงสนับสนุนการสร้างกองทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่แข็งแกร่งซึ่งมีมูลค่า 2.15 แสนล้านดอลลาร์หรือประมาณ 40% ของ GDP ในเดือนมิถุนายน 2562