ม็อบบุก!!คมนาคมสั่งถอยแปรรูปขสมก.

ในช่วงเช้าที่ผ่านมาม็อบสหภาพฯขสมก.กว่า 300 คน ได้เดินทางมาที่กระทรวงคมนาคม ยื่นหนังสือถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรื่อง ขอคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และเปิดทางให้เอกชนเดินรถ
.
โดยนายบุญมา ป๋งมา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กล่าวว่า อยากให้ทบทวนแผนฟื้นฟูของ ขสมก. เรื่องการยกเลิกแผนการจัดซื้อรถโดยสารจำนวน 3,000 คัน และให้เอกชนเดินรถทั้งหมดในเส้นทาง เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งกลุ่มสหภาพฯขอคัดค้านอย่างถึงที่สุด
.
ที่สำคัญการให้เอกชนเข้าบริหารนั้น จะต้องมีค่าโดยสารที่เพิ่มมากขึ้นกว่าราคาปกติที่ขสมก.เก็บค่าโดยสารเก็บอยู่อย่างแน่นอน
.
นอกจากนี้ ขสมก.ต้องขาดทุนจากนโยบายรัฐที่ตรึงค่ารถเมล์เพี่อลดภาระประชาชน แต่หากเป็นเอกชนเข้ามาเดินรถจะไม่สามารถควบคุมค่าโดยสารได้และอาจเกิดปัญหาขึ้นมาได้ หากเอกชนประท้วงหยุดวิ่งรถเมล์ และภาครัฐไม่สามารถไปบีบบังคับได้เลย
.
ดังนั้นหากทางกระทรวงคมนาคมยังนิ่งเฉยต่อความเดือดร้อนในครั้งนี้ จะเดินหน้ายื่นเรื่องไปยังกรรมาธิการแรงงาน และฝ้ายค้านเพื่อให้ดำเนินอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร และจะรวมชื่อเพื่อยื่นถอดถอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
.
ด้านนายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังจากหารือร่วมกับสหภาพฯได้ข้อสรุปว่า จะไม่มีการแปรรูปองค์กร ขสมก.แต่อย่างใด ยืนยันว่าจะไม่มีการบังคับให้ขสมก.หยุดเดินรถเมล์ทั้งหมด เพื่อเปิดทางให้เอกชนเข้ามาบริหารเต็มตัว เพราะ ขสมก.ถือเป็นระบบขนส่งมวลชนหลักอันดับแรกที่รัฐบาลต้องดูแลและสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือประชาชนในการเดินทาง
.
พร้อมยืนยันจะเดินแผนการจัดซื้อรถเมล์ใหม่ 3,000 คัน ให้กับขสมก.ตามเดิม ส่วนเรื่องมติครม.อีกเรื่องคือการปฏิรูปเส้นทางเดินรถโดยสารใหม่นั้น ยืนยันว่าจะมีการแบ่งเส้นทางให้ ขสมก.ไปเดินรถเมล์อย่างแน่นอน แต่คงระบุจำนวนที่ตายตัวตามที่ขอมาเป็น 137 เส้นทางไม่ได้ ต้องอยู่ที่ความเหมาะสม
.
ส่วนเรื่องค่าโดยสารนั้นมีการพูดคุยกันในหลายประเด็น เนื่องจากสหภาพฯคัดค้านเรื่องการลดค่าโดยสารเพราะเป็นภาระหนี้สินองค์กร จึงได้เห็นชอบร่วมกันในการออกโปรโมชั่นตั๋ววัน หรือ One Day Pass ของรถเมล์ ราคา 30 บาท สามารถใช้บริการได้ทั้งวันกี่เที่ยวก็ได้ ซึ่งหลังจากนี้จะเตรียมประกาศนโยบายและนำมาใช้ต่อไปเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชนในเมืองหลวง