ราคาทองคำโลกพลิกร่วงแรงเกือบ 25 ดอลลาร์ ปิดหลุด 1,940 ดอลลาร์ หวั่นขาขึ้นของดอกเบี้ย

159
0
Share:
ราคา ทองคำโลก พลิกร่วงแรงเกือบ 25 ดอลลาร์ ปิดหลุด 1,940 ดอลลาร์ หวั่นขาขึ้นของดอกเบี้ย

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,936.09 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -23.73 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.1% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,937.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -27.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.6%

ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำตลาดโลกปิดลดลง -2.8% และปิดลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ต่อเนื่อง และทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ตกต่ำมากที่สุดใน 6 สัปดาห์ผ่านมา

ทั้งนี้ในเดือนตุลาคม พบว่าราคาทองคำตลาดโลกพุ่งทะยานขึ้นถึง 8% โดยนับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่กลุ่มฮามาสติดอาวุธเปิดฉากโจมตีอิสราเอลจนนำไปสู่สงครามรุนแรงในรอบ 75 ปีของทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้ราคาทองคำโลกพุ่งทะยานขึ้นถึง 190.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เนื่องจากราคาทองคำตลาดโลกเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2023 อยู่ที่ระดับ 1,809.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

เมื่อกลางเดือนเมษายนปี 2023 ผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากการกล่าวปาฐกถาพิเศษของประธานธนาคารกลางสหรัฐยังคงส่งสัญญาณชัดเจนว่า โอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นมีอยู่ตลอดเวลาและไม่มั่นใจว่าดอกเบี้ยดังกล่าวในปัจจุบันนี้สูงมากพอที่ลดอัตราเงินเฟ้อได้หรือไม่ ขณะที่ นักลงทุนยังแบ่งรับแบ่งสู้กับแรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่คาดหวังว่าจะลดลงต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ในวันที่ 12-13 เดือนธันวาคมนี้

สถานการณ์การสู้รบระหว่างประเทศอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสติดอาวุธเริ่มมีสัญญาณคลายความรุนแรง หลังจากอิสราเอลประกาศระยะเวลาหยุดยิงชั่วคราว 4 ชั่วโมงใน 1 วัน เพื่อให้การส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในฉนวนกาซา

ขณะที่ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมสิ้นเดือนธันวาคมนี้อยู่ที่ 91% จากเดิมที่โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 90% ขณะเดียวกัน โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดในการประชุมต้นเดือนมิถุนายนปี 2024 นี้อยู่ที่ 42%