ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในเอเชียเข้าใกล้ 92 ดอลลาร์ สูงในรอบ 7 ปีกว่า

เมื่อเวลา 11.00 น.(ตามเวลาไทย) ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าในเอเชีย สิงคโปร์ รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ เคลื่อนไหวที่ 90.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.46 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.5% สอดรับกับราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ เคลื่อนไหวที่ 91.45 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.34 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.4% ทั้งหมดเทียบจากราคาปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดิบตลาดเอเชียวันนี้ ปรับเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 โดยตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่าราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 90.23 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.97 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +2% ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 หรือในรอบ 7 ปี 2 เดือน อย่างต่อเนื่อง

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 91.00 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.7% โดยในช่วงระหว่างวันของเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 91.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 หรือในรอบ 7 ปี 2 เดือน

ขณะนี้ นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ ไนเม็กซ์ นิวยอร์ก และเบร็นท์ อังกฤษ พุ่งทะยาน 20% และ 17% ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังทำสถิติราคาน้ำมันดิบในเดือนมกราคม 2565 รายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 1 ปี หรือนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2564 หลังจากที่ในปี 2564 ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปิดพุ่งทะยาน 50%

สาเหตุจากสภาวะอากาศหนาวเย็นจัดเกิดขึ้นในภูมิภาคภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะกระทบกำลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ ถึงแม้กลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบอีก 400,000 บาร์เรลในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อแก้ปัญหาปริมาณน้ำมันดิบโลกตึงตัว แต่ความต้องการใช้น้ำมันดิบยังคงมีสูงต่อเนื่อง ส่งผลภาวะตึงตัวของตลาดน้ำมันดิบโลกยังมีต่อไป ขณะที่ สถานการณ์รุนแรงในภูมิภาคตะวันออกกลาง และยุโรปฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศในยูเครนกับรัสเซียที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น