ราคาน้ำมันดิบโลกลงเกือบ 2 ดอลล์ เหลือกว่า 82 ดอลล์ หยุดราคาขึ้น 2 วันติดถึง 3 ดอลล์

210
0
Share:
ราคา น้ำมันดิบ โลกลงเกือบ 2 ดอลล์ เหลือกว่า 82 ดอลล์ หยุดราคาขึ้น 2 วันติดถึง 3 ดอลล์

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 75.96 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.4% ส่งผลหยุดราคาน้ำมันดิบปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +3.00 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +4.0% ในเดือนพฤศจิกายนผ่านไป ราคาน้ำมันดิบลดลง -6.2%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 82.83 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.27 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.3% ส่งผลหยุดราคาน้ำมันดิบปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +2.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.9% ในเดือนพฤศจิกายนผ่านไป ราคาน้ำมันดิบลดลง -5.2%

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากกลุ่มโอเปกพลัสมีมติเห็นตรงกันให้ขยายเวลามาตราลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของทั้งกลุ่มต่อไป รวมถึงให้ลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงอีก ส่งผลปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลดลงวันละ 2.2 ล้านบาร์เรล มีผลตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ใน 2024 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ปริมาณดังกล่าวน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะลดการผลิตลงวันละมากกว่า 2-3 ล้านบาร์เรล

สำหรับการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงอีกนั้น ประกอบด้วย ซาอุดิอาระเบียยังคงลดกำลังการผลิตลงวันละ 1 ล้านบาร์เรลเช่นเดิม แต่รัสเซียลดการผลิตลงจากปัจจุบันอีกวันละ 200,000 บาร์เรล รวมเป็นลดผลิตวันละ 500,000 บาร์เรล นอกจากนี้ มีอีก 6 ประเทศที่ลดกำลังการผลิต เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตลดผลิตวันละ 163,000 บาร์เรล อิรักลดผลิตน้ำมันดิบลงอีกวันละ 220,000 บาร์เรล

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่า ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกทั้งในปี 2023 นี้ และในปี 2024 ด้วย กลุ่มโอเปกพลัสประเมินความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2024 เพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและจีนจะขยายตัวขึ้น ทำให้ปัจจัยพื้นฐานของราคาน้ำมันดิบยังคงแข็งแกร่ง แต่การที่ราคาน้ำมันดิบร่วงตกต่ำเนื่องจากเกิดภาวะเทขายราคาน้ำมันดิบมากเกินราคาแท้จริง

ขณะที่แรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาลดลงต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ในวันที่ 12-13 เดือนธันวาคมนี้