วันสุดท้าย! โปรดทราบซื้อขายหุ้นฉาวบริษัท STARK ในตลาดหุ้นไทยวันนี้วันสุดท้าย

249
0
Share:
วันสุดท้าย! โปรดทราบซื้อขาย หุ้น ฉาวบริษัท STARK ในตลาดหุ้นไทยวันนี้วันสุดท้าย

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า วันนี้ 30 มิถุนายน 2566 จะเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของหลักทรัพย์ STARK หรือบมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น

ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทั่วไปควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุน หรือตัดสินใจใช้สิทธิใช้เสียงในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อสั่งห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ STARK อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2566 ไปจนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนิการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน จากเหตุส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ และดำเนินการให้บริษัทมีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ

เมื่อวานนี้ 29 มิถุนายน 2566 นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ กรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ตามที่บริษัทได้นำส่งงบการเงินประจำปี 2565 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีและปรากฏว่าส่วนของผู้ถือหุ้นปี 2564 (ปรับปรุงใหม่) และปี 2565 มีค่าน้อยกว่าศูนย์นั้น

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจึงประกาศให้หลักทรัพย์ของบริษัทมีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน

บริษัทขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจและจะดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ไขเหตุเพิกถอนดังกล่าว บริษัทมีความตั้งใจที่จะปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างหนี้ ทั้งของบริษัทและบริษัทย่อยซึ่งดำเนินธุรกิจหลักเพื่อทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทมีค่ามากกว่าศูนย์ และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติของบริษัทย่อยซึ่งดำเนินธุรกิจหลัก โดยบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางดำเนินการแก้ไข ดังต่อไปนี้

1. เจรจากับเจ้าหนี้ที่สำคัญทั้งหมด เพื่อให้เจ้าหนี้ต่างๆ ระงับการใช้สิทธิ์เรียกร้องให้ชำระหนี้โดยพลัน สนับสนุนแผนการปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างหนี้ของบริษัท รวมถึงให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อวางแผนการบริหารการชำระหนี้ และวางแผนธุรกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

2. จำหน่ายทรัพย์สิน (เช่น หุ้นในบริษัทย่อยที่ไม่ได้ดำเนินธุรกิจหลักของบริษัท สิทธิเรียบร้อยในสัญญาที่สำคัญ) และปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณธุรกิจ เพื่อเพิ่มรายได้และลดต้นทุนคงที่ และค่าใช้จ่ายของบริษัท

3. เพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ดูหุ้นเดิมในปัจจุบัน หรือพิจารณาหานักลงทุนรายใหม่ เพื่อเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท

4. ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายเพื่อดำเนินการฟื้นฟูกิจการเพื่อปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างหนี้ของบริษัท รวมถึงให้สิทธิการแปลงหนี้เป็นทุนแก่เจ้าหนี้ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ

ทั้งนี้ในการพิจารณาเลือกแนวทางแก้ไขส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ บริษัทจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ ภายใต้สัญญาทางการเงิน แล้วสัญญาที่สำคัญต่างๆ ความต้องการของตลาดในการเข้าซื้อทรัพย์สินของบริษัท และปัจจัยในการกำหนดราคาที่เกี่ยวข้อง

ความร่วมมือและการสนับสนุนของเจ้าหนี้ที่เกี่ยวข้อง การให้การสนับสนุนของผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ตลอดจนผลกระทบต่างๆ เพื่อคงไว้ซึ่งคุณสมบัติ ในการดำรงสถานะของบริษัทจดทะเบียน เพื่อรักษาประโยชน์สูงสุดของบริษัท ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกรายของบริษัท โดยคณะกรรมการและผู้บริหารชุดปัจจุบันของบริษัทมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะแก้ไขเหตุดังกล่าว เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ภายใต้กรอบของกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องและบริษัทจะแจ้งให้ทราบถึงแนวทางดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน และกำหนดเวลาของการดำเนินการดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ภายในวันที่ 19 กรกฎาคม 2566