วิกฤตราคาข้าวโลกแพงกำลังตามมา ผงะดัชนีราคาข้าวพุ่งสูงใน 1 ปี

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ UNFAO เปิดเผยว่า ดัชนีราคาข้าวระหว่างประเทศเดือนพฤษภาคม 2565 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีราคาอาหารโลก ได้ปรับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน และยังทำสถิติดัชนีราคาข้าวโลกสูงสุดแตะระดับ 109.2 จุด ซึ่งสูงสุดในรอบ 12 เดือน นอกจากนี้ ยังเพิ่มขึ้น 3.5% จากเดือนเมษายน สาเหตุจากต้นทุนในการเพาะปลูกข้าวมีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ราคาปุ๋ย และราคาพลังงานสำคัญ เช่น น้ำมัน
ในด้านปริมาณการผลิตข้าวนั้น แม้จะไม่เป็นปัญหาในช่วงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถูกคาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะถดถอย หรือเกิดภาวะเศรษฐกิจหยุดนิ่งท่ามกลางเงินเฟ้อพุ่งสูง แต่ต้นทุนในการเพาะปลูกกลับได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงหลังเกิดสงครามรัสเซียในประเทศยูเครนเป็นต้นมา

นางโซนอล เวอร์มา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโนมูระ ญี่ปุ่น กล่าวว่า ขณะนี้มีความจำเป็นต้องติดตามและประเมินแนวโน้มราคาข้าวที่มีทิศทางเพิ่มขึ้น สาเหตุจากราคาข้าวสาลีที่มีราคาแพงขึ้นต่อเนื่องอาจนำไปสู่การหาสินค้าทดแทน เกิดความต้องการมากขึ้น และลดปริมาณสต็อกของข้าวในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงต่อราคาข้าวในขณะนี้ อาจจะยังไม่เพิ่มมากขึ้นนัก เนื่องจากสต็อกข้าวทั่วโลกยังมีจำนวนมาก นอกจากนี้ ฤดูกาลเพราะปลูกข้าวในอินเดียในช่วงหน้าร้อนนี้ ได้รับการประเมินว่าผลผลิตจะออกมาดี

ด้าน 10 อันดับประเทศที่สามารถผลิตข้าวได้มากที่สุดในโลกประจำปีนี้ คือ จีน 28% อินเดีย 23.5% อินโดนีเซีย 7.2% บังคลาเทศ 7.2% เวียดนาม 5.7% ไทย 3.7% เมียนมาร์ 3.5% ฟิลิปปินส์ 2.5% ปากีสถาน 1.5% บราซิล 14 และอื่นๆรวมกันอีก 15.8%
ทั้งนี้ UNFAO เปิดเผยว่า นับตั้งแต่รัสเซียทำสงครามกับยูเครนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์มาถึงปัจจุบัน พบว่า ดัชนีราคาอาหารโลกพุ่งทะยานถึง 75% เทื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 นอกจากนี้ 1 ใน 3 ของต้นทุนการผลิตอาหารมาจากปัจจัยพลังงาน ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตปุ๋ยจึงมีราคาพุ่งสูง