ศบค. ไฟเขียวให้เปิดผับบาร์ได้ 1 มิ.ย. นี้ นั่งดื่มได้ไม่เกินเที่ยงคืน

359
0
Share:
ผับบาร์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 กล่าวว่าสัญญานการติดเชื้อดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ขอให้ไปฉีดวัคซีนให้กันครบ เรามีวัคซีนเพียงพอ ซึ่งวันนี้มีการเสนอเข้ามาหลายวาระ มีการผ่อนคลายโซนสีสถานการณ์ มีพื้นที่สีเขียว สีฟ้า และสีเหลือง เห็นชอบการปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศเพื่อให้กระบวนการเร็วขึ้น เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามากขึ้น ซึ่งจะมีการพิจารณาไปตามสถานการณ์ต่อไป

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศมีแนวโน้มคลี่คลายดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตลดลง ซึ่งไทยได้รับคำยกย่องว่าดูแลสถานการณ์ได้ดีสุดในอาเซียนจากองค์การอนามัยโลก ขณะที่กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ได้รับคำชื่นชมด้านการท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มจำนวนมากพอสมควร และการท่องเที่ยวเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

“ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือ แต่อยากฝากไปถึงผู้ที่ยังหละหลวมไม่ปฏิบัติตามมาตรการ โดยเฉพาะในเรื่องการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 และ 4 ซึ่งขณะนี้มีปริมาณวัคซีนเพียงพอ และจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ส่วนการเปิดเรียนนั้นยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้” นายกรัฐมนตรี ระบุ

ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับสถานบริการ สถานประกอบการ ที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือ สถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดบริการได้เริ่ม 1 มิถุนายน 2565 ในพื้นที่ได้แก่ พื้นที่สีฟ้า และพื้นที่สีเขียว โดยเปิดให้บริการ จำหน่าย และบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เกิน 24.00 น. และเปิดบริการไม่เกิน 24.00 น. ให้งดบริการเครื่องดื่มที่มีการใช้แก้วร่วมกัน งดกิจกรรมส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การให้บริการที่มีการคลุกคลีและสัมผัสใกล้ชิดกับลูกค้า จะต้องสวมหน้ากาก

และ ศบค. ยังมีมติปรับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร ได้แก่ พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) จาก 65 จังหวัด ลดลงเหลือ 46 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) เพิ่มเป็น 14 จังหวัด(เดิมไม่มี) พื้นที่สีฟ้า (นำร่องท่องเที่ยว) จาก 12 จังหวัด เพิ่มขึ้นเป็น 17 จังหวัด จังหวัดอื่นดำเนินการบางพื้นที่ จาก 16 จังหวัด เป็น 12 จังหวัด สำหรับมาตรการต่างๆ มีดังนี้

มาตรการสำหรับผู้ให้บริการผับ บาร์
1. พนักงาน นักร้อง นักดนตรี และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ รวมถึงวัคซีนเข็มกระตุ้น
2. ตรวจคัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกวัน ด้วย (TST)
3. ตรวจพนักงานทุกคนด้วย ATK ทุก 7 วัน และเมื่อมีอาการหรือมีความเสี่ยง
4. ถือปฏิบัติตามาตรการ UP

มาตรการสำหรับผู้รับบริการจะต้องดำเนินการดังนี้
1. ผู้รับบริหารต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ รวมถึงวัคซีนเข็มกระตุ้น
2. ถือปฏิบัติตามมาตรการ UP
3. แนะนำให้ประชากรกลุ่ม 608 หลีกเลี่ยงการเข้ารับบริการ

มาตรการสำหรับสถานประกอบการ จะต้องดำเนินการดังนี้
1. สถานบริการ ฯ ที่จะเปิดดำเนินการ ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.
2. อนุญาตให้เปิดดำเนินการเฉพาะสถานบันเทิงที่ขึ้นทะเบียน
3. จัดพื้นที่ให้บริการโดยมีระยะห่างโต๊ะอย่างน้อย 1 เมตร
4. มีการระบายอากาศที่ดีและเพียงพอ
5. รวมทั้งต้องจัดให้มีการตรวจสอบผู้รับบริหารว่า เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วน รวมถึงวัคซีนเข็มกระตุ้น และไม่ใช่กลุ่ม 608

รวมถึงอนุญาตให้กลุ่มโรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือ สถานที่ลักษณะเดียวกัน เปิดดำเนินการได้ตามปกติ โดยไม่จำกัดจำนวนผู้เข้าชม ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งที่ 18 เไปอีกป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-31 กรกฎาคม 2565 เพื่อคงไว้ซึ่งมาตรการป้องกันและควบคุมโรคต่อไปจนกว่าจะผ่านเกณฑ์การประเมินการเป็นโรคประจำถิ่นตามที่ฝ่ายสาธารณสุขกำหนด