ศบค.ไม่เคาะล็อกดาวน์ แต่ใช้วิธีคุมพื้นที่โซนตามระดับความรุนแรง

878
0
Share:

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล
.
โดยล่าสุดที่ประชุมเปิดเผยว่า ที่ประชุมศบค.ไม่มีมติให้ล็อกดาวน์ แต่แบ่งพื้นที่แต่ละจังหวะที่มีความเสี่ยงสูงไปถึงจังหวัดที่มีความเสี่ยงต่ำ ดังนี้
.
– พื้นที่ควบคุมสูงสุด(เดิมคือสีแดง) ที่ต้องเฝ้าระวังระดับสูงสุด ถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และมีมากกว่า 1 พื้นที่ คือ สมุทรสาคร
.
– พื้นที่ควบคุม(เดิมคือสีสีส้ม) เป็นพื้นที่ที่ติดกับพื้นที่สีแดงหรือพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อมากว่า 10 รายและมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น คือ กรุงเทพมหานคร สมุทรสงคราม ราชบุรี และนครปฐม
.
– พื้นที่เฝ้าระวังสูง(เดิมคือสีเหลือง) พื้นที่ผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 ราย และมีแนวโน้มควบคุมสถานการณ์ได้ ประกอบด้วย สระบุรี สมุทรปราการ สุพรรณบุรี นนทบุรี ปทุมธานี อุตรดิตถ์ ฉะเชิงเทรา กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พระนครศรีอยุธยา ภูเก็ต เพชรบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี กระบี่ ขอนแก่น ชัยนาท อุดรธานี พิจิตร นครศรีธรรมราช สุราษฏ์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ ชัยภูมิ นครสวรรค์ อ่างทอง
.
ส่วนพื้นที่เฝ้าระวัง(เดิมคือสีเขียว) ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ และยังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีผู้ติดเชื้อ คือจังหวัดที่เหลือทั้งหมด
.
โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากเปรียบเทียบสถานการณ์โควิด ในประเทศและต่างประเทศ ยังมีความแตกต่างกันอยู่มาก ขอให้รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาชนให้ชัดเจน พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่และประชาชนทุกคนที่ร่วมกันเสียสละ อดทน ซึ่งไทยเคยทำสำเร็จกันมาแล้ว
.
จึงขอให้กำลังใจให้ทุกคนทำให้สำเร็จอีกครั้ง แต่อย่าประมาทหรือชะล่าใจ ต้องพิจารณาจากบทเรียนครั้งก่อน หากเราไม่ประมาท และ ปรับปรุงมาตรการให้มีประสิทธิภาพ ก็จะไม่พ่ายแพ้ ดังนั้น ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจด้วยความสามัคคี เราจะสามารถก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้
.
สิ่งที่เสียใจ คือช่วงเวลาปีใหม่ควรจะเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนมีความสุข แต่กลับต้องเพิ่มความเข้มงวดในระดับสูงสุด อีกประเด็นสำคัญ คือ มีแรงงานต่างด้าวกระจายทั่วประเทศ ทั้งสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานเหล่านี้ ก็เอื้อต่อการแพร่ระบาดของโรคได้ง่าย
.
จึงต้องเฝ้าระวังและตรวจตราอย่างเข้มข้น การ์ดอย่าตก สวมหน้ากากอนามัยเว้นระยะห่าง และ ในสถานการณ์เช่นนี้ ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจตกต่ำ จะต้องถูกพิจารณาควบคู่กับการรักษาความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน

.