“ศรสุวีย์ ภู่รวีนะศวัชรี”แจงหน้ากาก 200 ล้านชิ้นไม่มีจริง ไม่รู้หน้ากาก-โรงงานของใคร

1354
0
Share:

นายศรสุวีย์ ภู่รวีนะศวัชรี หรือ บอย บุคคล ที่แอบอ้างคนสนิทผู้ติดตามรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาถึงสำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมกับระบุว่า ไม่มีอะไรจะชี้แจง รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่มีอะไรนอกจากจะขอโทษพี่น้องประชาชน และไม่มีหน้ากากตุนไว้จริงๆ
.
ส่วนกรณีเรื่องการกักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้นนั้น ยืนยันว่าไม่มี อยากขอโทษทุกคน ที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน ตนไม่มีอะไรจริงๆ และเพิ่งไปไหว้พระที่จันทบุรี และเพิ่งกลับมา แต่เมื่อคืนที่ทราบข่าวได้แจ้งความเอาไว้แล้ว เพราะข่าวในโซเชียลมันแรงไป
.
สำหรับประเด็นเรื่องการทีมงานรัฐมนตรี ตนเจอเพียงแค่ครั้งเดียว เจอกันก็คุยกันพี่น้องรักกัน พี่เขานิสัยดี ไม่ได้คุยอะไร นั่งกันสบายๆ ดื่มไวน์กันกับน้อง
.
ด้านคลิปที่ออกมากับคลังหน้ากากอนามัย ไม่ใช่คลัง ของใครก็ไม่รู้ เข้าไปมีรถเล็กๆคันเดียว เข้าไปอยากโชว์ออฟว่าเราหาหน้ากากเจอ เพราะหน้ากากมันหายาก แต่ละคนหาหน้ากากไม่เจอ ผมเจอแต่ก็ไม่มีเงินซื้อ แค่โพสต์โชว์ในเฟซบุ๊ก ผมขอโทษไม่ได้เจตนา ส่วนที่บอกว่า มี 200 ล้านชิ้น ผมทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
.
ด้านทนายกล่าวว่า ที่โพสต์บอกว่า มี 200 ล้านชิ้น คุณบอยเป็นพ่อค้าออนไลน์ แต่ไม่ได้มีสินค้า แค่โพสต์ขายแต่ไปหาสินค้ามาขายต่อ เป็นแค่ตัวกลางในการขายสินค้า ไม่ได้มีสต็อกอะไร
.
อย่างไรหลังจากที่ถูกเชิญตัวไปที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำ นายศรสุวีร์ กลับให้สัมภาษณ์ว่า ผมเป็นนายหน้า ไม่ได้มีของ ส่วนใหญ่นายหน้าในประเทศไทยโดนหลอกหมด ผมต้องการสร้างความเชื่อมั่น ให้กับคนที่จะมาซื้อของ สุดท้ายก็ต้องบอกว่าไม่มีของ ส่วนคลิปเป็นโรงงาน เปิดถูกต้อง กำลังการผลิตน้อย ตนไปตามโลเคชั่นไปดู ไปไลฟ์สด เพราะเราเป็นนายหน้า
.
ส่วนคลิปเป็นคลิปเก่า ประมาณช่วงต้นเกิดเหตุการณ์ ยังไม่ขาดแคลนหน้ากากมาก พอของขาดผมก็ไม่มีของ นายหน้าก็ไม่มีงานทำ ตอนขายก็ขายได้แค่เล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้เยอะ ส่วนใหญ่ขายไม่ประสบความสำเร็จ เพราะสินค้าไม่มีคุณภาพ ก็ตีกลับมา
.
ส่วนไลฟ์สดโรงงานก็แค่สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า ผมไม่ได้หลอก แต่คิดว่าตัวเองจะสามารถหาของได้เล็กๆ น้อยๆ ส่วนที่ถ่ายกับป้ายไทยจีน มีน้องชื่อมิสเตอร์ลี เป็นภาพภาษาจีน ยังได้ถามว่าแปลว่าอะไร ตอนนั้นอู่ฮั่น เดือดร้อนเลยมาทำโชว์ ผมเลยไปขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยพบกับเลขา บอกว่า ถ้าจะไปปักกิ่งก็ยินดีนะ ก็คุยกันเท่านั้น
.
ตนเป็นลูกผู้ชาย อยากถามอะไรถามเลยตอบเคลียร์ ไปสาบานวัดพระแก้วก็ได้
.
ส่วนกรณีการขายราคา 14 บาท ตนเป็นคนเขียนเอง แต่ไม่ได้มีอะไรมากมาย เพราะไม่รู้ว่าจะตั้งราคาเท่าไหร่ ส่วนใหญ่สินค้าที่ขายไม่ได้ผลิตในเมืองไทย ของนอกมาเป็นตู้ๆ มาเป็นคาร์โก้ มาแบบถูกกฎหมายมา อยากให้ผู้สื่อข่าวลองดู

ด้าน พล ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. เปิดเผยว่า เขาสมัครใจมาพบให้ข้อมูลสื่อมวลชน หลังจากนี้จะเป็นไปตามกฎหมาย มันเป็นสิทธิของเขาที่จะพูดคุย ยืนยันว่า ยังไม่ได้อยู่ในกระบวนการสอบสวน มีการออกหมายค้นไป 6 จุด หากใครเกี่ยวข้อง และมีความผิดก็ต้องดำเนินคดี การระบุว่าไม่มีของหรืออะไร ก็เป็นเรื่องของเขา หากมีความผิดในฐานอะไรก็ค่อยว่ากันไป พ้นจากวันนี้ก็จะสามารถสรุปได้ แต่ต้องใช้เวลา