สตรีทฟู้ดส์ยังไม่ฟื้นเหมือนก่อนเกิดโควิด ค่าไฟค่าน้ำมันดันค่าใช้จ่ายพุ่ง 50%

นางสาวประภัสสร รังสิโรจน์ นายกสมาคมร้านอาหารไทย และสตรีทฟู้ด (ครัวชมทะเล) กล่าวว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ชัดเจนแล้วว่าจะเป็นรัฐบาลผสม ขณะที่นโยบายการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทต่อคน มองว่าเป็นเรื่องที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยหากมองในภาพของประชาชนก็จะมีเม็ดเงินใช้จับจ่ายได้มากขึ้น แต่ในทางกลับกันจะต้องมีการตอบสนองผ่านการปรับขึ้นราคารับเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นมา เป็นไปตามกลไกตลาดปกติ ทำให้ระยะยาวคงไม่ได้ยั่งยืนมากเท่าที่ควร เปรียบเป็นการรักษาอาการระยะสั้น เหมือนใช้ยาจำพวกสเตียรอยด์มากกว่า

นโยบายหลักที่พรรคเพื่อไทยให้ไว้ตอนหาเสียงนั้น ยังต้องดูเทียบกับภาพความจริงในปัจจุบัน เพราะบางนโยบายก็อาจทำได้จริง แต่บางเรื่องก็ยังต้องรอเวลาก่อน ไม่สามารถทำได้ทันทีเหมือนที่คิดไว้ เพราะต้องดูทั้งงบประมาณ ช่วงเวลาที่เหมาะสม ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้มีความคุ้มค่ากันหรือไม่ ทำให้ตอนนี้ยังมองไม่เห็นภาพว่าจะไปในทิศทางใดต่อ โดยเมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามาทำหน้าที่แล้ว ก็อยากให้ทำแบบจริงจัง อะไรดีก็อยากให้สานต่อ หรือมีนโยบายอะไรที่ลงไปสู่กลุ่มรากหญ้าและภาคธุรกิจแบบชัดเจนมากขึ้น

นายกสมาคมร้านอาหารไทย และสตรีทฟู้ด (ครัวชมทะเล) กล่าวต่อไปว่า ธุรกิจร้านอาหารในขณะนี้ยังพอไปได้ แม้ไม่ถึงกับเริ่มกลับมาฟื้นตัวเทียบเท่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 แม้บรรยากาศในด้านการเมืองจะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งการได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เป็นนายเศรษฐา ทวีสิน รวมถึงรัฐบาลใหม่ที่มีแนวโน้มว่าจะได้เห็นเร็วๆ นี้ แต่ก็ยังไม่ได้เป็นปัจจัยที่ส่งแรงให้เกิดการออกมาจับจ่ายใช้สอยหรือใช้บริการร้านอาหารนอกบ้านมากนัก สาเหตุจากภาพรัฐบาลใหม่ยังคงไม่ชัดเจนแบบเป็นรูปธรรมมากนัก

ในฐานะของเอกชนธุรกิจร้านอาหาร ก็อยากเสนอส่งตรงถึงนายกฯ ให้ช่วยแก้ไขในเรื่องต้นทุนการทำธุรกิจเป็นหลัก โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ที่เพิ่มขึ้นเทียบกับต้นปี 2566 กว่า 40% แล้ว ภายใต้ร้านอาหารขนาด 100 ที่นั่ง เคยจ่ายค่าไฟอยู่ประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน ปัจจุบันต้องจ่ายที่ 30,000 บาทต่อเดือนแล้ว ซึ่งทั้งค่าไฟและน้ำมัน ก็เป็นต้นทุนที่ดันให้เกิดการปรับขึ้นราคาสินค้าเกือบทุกรายการ

ทั้งนี้ ต้นทางของธุรกิจร้านอาหารเป็นค่าไฟ น้ำมัน วัตถุดิบและค่าแรง ร้านบางแห่งเจอต้นทุนอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินที่กู้ยืมมาเริ่มต้นธุรกิจใหม่ มีภาระในการผ่อนจ่ายที่สูงขึ้น จึงไม่อยากให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก ตอนนี้ผู้ประกอบการอยู่ในขั้นเพิ่งลืมตาเท่านั้น ยังไม่สามารถอ้าปากได้เลยด้วยซ้ำ